เรื่องเล่าขาน ตำนานของผู้เฒ่าเมืองจีน ....................................................................................
ท่านผู้เฒ่าเมืองจีน
ผู้สืบทอดพันธสัญญาจากผู้เฒ่าเมืองจีน
ผู้สืบทอดพันธสัญญา เป็นผู้ที่ท่านผู้เฒ่าเมืองจีน ให้ความไว้วางใจในการดูแลและเข้าถึงระบบทุกส่วน
ของทองคำสมัยราชวงศ์ชิง (ประเทศจีน) ที่ถูกขนมาเก็บซ่อนไว้ ตลอดแนวธรรมชาติตามลุ่มแม่น้ำโขง
โดยผู้ทำการขนทองออกจากเมืองจีน หนี กองทัพญี่ปุ่น เพื่อนำมาซ่อนไว้
คือ ทหารจีนที่เป็นกองทัพของ “ตระกลูหลี่”
ธนาคารระดับโลกแห่งหนึ่งใน ฮ่องกง ประเมินมูลค่าทองคำจากใบคุมทอง(เอกสารเก่าที่หลงเหลือ)
เป็นมูลค่าในปัจจุบันมากกว่า 500 ล้านล้านดอลล่าสหรัฐ (500 ทีเลี่ยน)
ทองคำนั้นมีหลายกองหลายรหัส ใบคุมทองบางฉบับตีมูลค่าได้มากกว่า
1,000 ล้านล้านดอลล่าสหรัฐ (1,000 ทีเลี่ยน)
นั้นคือมูลค่าของทองคำที่ถูกเก็บซ่อนไว้ตามธรรมชาติในแถบลุ่มแม่น้ำโขง
ยาวลงมาตั้งแต่ยูนาน สิบสองปันนา ลาว พม่า ไทย กัมพูชา จนถึงเวียดนาม
ที่สำคัญประเทศลุ่มแม่น้ำโขงรวมถึงประเทศ
จะรอดจากการเอารัดเอาเปรียบจากมหาอำนาจได้
ก็จะต้องใช้เงื่อนไขที่แผ่นดินของเราเป็นเก็บซ่อนทองคำไว้จำนวนมาก
(ประเทศลาวมีจำนวนมากที่สุด ประเทศใกล้กันและประเทศอื่นๆ ก็รองลงมา)
ที่สำคัญที่สุดโลกจะรอดจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้
ก็เพราะเงินบุญที่ได้จากทองคำพวกนี้หละ ถ้าพากันหาเจอนะ
เจอทองคำพวกนี้เมื่อไหร่โลกก็จะสงบได้ก็แล้วกัน
ถ้าหาทองคำพวกนี้ยังไม่เจอ ก็จะยังไม่มีประเทศใดสงบลงได้หรอก
ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอีกกี่รอบ แล้วได้ใครมาเป็นประเทศมหาอำนาจก็ตาม
ทุกอย่างจะวนถังอยู่อย่างนี้ หาความสงบไม่เจอ และจะเกิดการศูนย์เสียบุคคลสำคัญ
และเกิดการศูนย์เสียของผู้คนจำนวนมากเหมือนเดิม จะวนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ถ้าหาทองคำพวกนี้ยังไม่เจอ ก็จะยังไม่มีประเทศใดสงบลงได้หรอก
จะพากันหาเจอหรือเปล่านั้นสิ..สำคัญยิ่ง...
เชื่อเถอะว่ามันคือเรื่องจริงที่จะทำให้คุณและคนที่คุณรักนั้นรอดปลอดภัยได้
“ถ้าท่านผู้เฒ่าเมืองจีนท่านยังอยู่ บารมีของผู้ทรงศีลของท่าน น่าจะทำให้แผ่นดินนี้เย็นลงได้ พอสมควร
แต่ท่านผู้เฒ่าเมืองจีนท่านไม่ได้อยู่ ท่านละสังขารไปแล้ว เหลือแต่ผู้สืบทอดพันธสัญญา ซึ่งจะเป็นใครก็ยังไม่มีใครรู้”
หรือเราต้องรอจนกว่าโลกจะกลับมาใช้มาตรฐานทองคำเหมือนเดิมก่อน ทองคำที่ถูกเก็บซ่อนไว้แถบลุ่มน้ำโขงถึงจะโผล่ออกมาให้พวกเราได้เห็น
หรือแสดงว่า เงินบุญ เงินของยุคใหม่ไม่ว่าก้อนไหนก็จะยังไม่สามารถออกมาได้ จนกว่าทุกประเทศทั่วโลกจะพร้อมใจกันกลับมาเข้าสู่ มาตรฐานทองคำ ให้ได้โดยพร้อมเพียงกันเสียก่อน

แหล่งศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
ประวัติความเป็นมาของ "ทองคำ"และความเกี่ยวโยงของกลุ่ม "Dragon Family"
ทองคำมีมากกว่าที่คุณรู้ (ทองคำ คือ มหาอำนาจ Super Power)
ยุคศิวิไลซ์: พันธสัญญามรดกโลก ทรัพย์แผ่นดิน (ท่านผู้เฒ่าหลี่เหมยฮัว)
รู้ทัน The City of London - "The Crown" - ผู้เบื้องหลังระบบการเงินโลก
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติรัสเซีย
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลังบิดาแห่งคอมมิวนิสต์
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อสงครามโลกครั้งที่ 1
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อสงครามโลกครั้งที่ 2
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลัง การปฏิวัติวัฒนธรรมจีน
แผนที่ทางรถไฟของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (เส้นทางสายทองคำ)
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน กับความคล้ายในปัจจุบันสอนอะไรเรา
ตระกูลรอธส์ไชลด์ (Rothschild) ตระกูลที่รวยที่สุดในโลกจริงหรือไม่
The Great Reset ถึงเวลาเริ่มต้นระบบโลกใหม่หรือยัง ตอนที่ 1 - 7
ระบบการเงินการธนาคารจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหลัง The Great Depression
Agenda 2030 การวางโครงสร้างระบบโลกใหม่ (ยุทธศาสตร์การลดจำนวนประชากรโลก)
เราอยู่ในระหว่างสงคราม : เตรียมรับเศรษฐกิจโลกทรุด ตกต่ำหนักสุดในชีวิต
พญานาคเขมรโตนเลสาบ คำสาบที่จีนจะสิ้นแผ่นดิน ในยุคของผู้นำจีนไม่มีคุณธรรม
รู้จักไหม
แชร์ทองคำโบราณ
แชร์ราชวงศ์โบราณทั่วทั้งโลก เพื่อความสงบสุขของโลกและความปลอดภัย ในการค้าขายระหว่างประเทศยุคราชวงศ์
นี่คือสิ่งที่ราชวงศ์โบราณร่วมมือกันเพื่อพยายามสร้างสามัคคีธรรมและลดสภาวะสงครามในโลกใบนี้
IMF กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับระบบการเงินมาตรฐานทองคำรอบใหม่
วาติกัน ซิตี้ออฟลอนดอน และวอชิงตัน
การดึงลูกหลายตระกลูลีเข้าเป็นสมาชิก ก็คือ การตามหาผู้เฒ่าตระกลูหลี่
ตระกลูลี ก็คือ ตระกลูหลี่นั้นหละครับ เขียนเป็นภาษากฤษเหมือนกัน (Lee)
สิ่งที่ระบบการเงินโลกต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ ทองคำ ทองคำจำนวนมหาศาล เพื่อที่จะปรับสมดุลกับ หนี้กองมหาศาล ของทั้งโลกได้
ทองคำ ทองคำ และทองคำ
การใดทำแล้วร้อนใจภายหลังการนั้นไม่ดี
การใดทำแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง การนั้นดี
การใดทำแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง
ทั้งเป็นประโยชน์ตนและเป็นประโยชน์ท่านด้วย การนั้นดีมาก
วาติกัน ซิตี้ออฟลอนดอน และวอชิงตัน
การดึงลูกหลายตระกลูลีเข้าเป็นสมาชิก ก็คือ การตามหาผู้เฒ่าตระกลูหลี่
ตระกลูลี ก็คือ ตระกลูหลี่นั้นหละครับ เขียนเป็นภาษากฤษเหมือนกัน (Lee)
สิ่งที่ระบบการเงินโลกต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ ทองคำ
ทองคำจำนวนมหาศาล เพื่อที่จะปรับสมดุลกับ หนี้กองมหาศาล ของทั้งโลกได้
ท่านผู้อ่านทั้งหลาย หากท่านได้ฟังห้าคลิปล่าสุดนี้ ท่านเห็นถึงความคิดความอ่านของระบบจารีตเก่า ที่ชอบอ้างบุญเก่าบ้างหรือไม่ อ้างแต่บุญเก่าไม่เคยจะคิดสร้างบุญใหม่บ้างเลย
รู้สึกไหมว่า อคติของพวกเขาเหยียดหยามผู้คนโดยสิ้นเชิง
คนหรือกลุ่มคนที่มีแนวคิดกินแต่บุญเก่านี่
พวกเขาอาจมีโรคประจำตัวก็เป็นได้ เช่น โรคสำคัญตัวผิด
คุณว่าใช่หรือไม่ คนพวกนี้มีความคิดผิดธรรมชาติไปเยอะนะ
ห้าคลิปล่าสุดนี้ดูไป ก็ไม่รู้จะขำเป็นภาษาอะไรดี
ขนาดประเทศจีนเป็นซ้ายจัดเป็นคอมมิวนิสต์แดงจ๋า
ก็ยังพัฒนาเศรษฐกิจได้จนกลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจ
ทางเศรษฐกิจของโลกได้เลย
แล้วจีนไม่ดูดทรัพยากรจากประเทศอื่นเลยรึไง
แล้วจีนต่างกันกับอเมริกาตรงไหน
ทรัพยากรทั้งหลายเช่นข้าว ถ้าไม่ออกไปขายต่างประเทศบ้าง
แล้วชาวนาคนรากหญ้าจะเอากำไรและความอยู่ดีกินดีมาจากไหน
ชนชั้นนำไทยในปัจจุบันมีกำลังพอที่จะทำให้เศรษฐกิจของชาวนาดีขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งต่างชาติหรือเปล่าหละ
เรื่องพวกนี้เป็นความขัดแย้ง
ผู้มีปัญญาเท่านั้นที่บริหารจัดการได้
คนไม่มีปัญญาก็เอาแต่คอรัปชั่นอย่างหน้ามืดตามัว
เหยียบย่ำศักดิ์ศรีประชาชนในชาติตนเอง เพื่อที่จะกีกกันการเข้าถึงอำนาจการต่อรองทางเศรษฐกิจใช่ไหมหละ จริงไหม
เอาจริงๆ ในความพยายามก็แค่ อยากให้อำนาจทุกอย่างทั้งหมดกลับไปสู่ พวกที่ตนนิยมเป็นการส่วนตัว ก็แค่นั้น
แต่โดยฐานะแห่งอำนาจแล้วนั้น
ยิ่งมีการกระจายอำนาจมากเท่าใด ความขัดแย้งที่รุนแรงก็จะลดน้อยลงได้เท่านั้น
การเชิดชูกระบวนการอำนาจรวมศูนย์ ย่อมเป็นความโง่โดยแท้จริง
เอาเป็นว่าท่านผู้อ่านลองฟังนิทานดังต่อไปนี้นะ
คุณเห็นอะไรหรือเปล่าว่า คนพวกนี้คือพวก "ไก่ไม่ขัน ตะวันไม่ขึ้น"
ยุคนี้เป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร โลกธรรมย่อมมีสองด้านที่ตรงกันข้ามกันอยู่แล้ว มีอยู่อย่างนี้ตั้งแต่มีโลกมา
การรับข้อมูลข่าวสารก็จะมีทั้งสองด้านเช่นเดียวกัน
ขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาให้ดีๆ อย่าปล่อยให้ใครมาบิดสมองของคุณได้นะจ๊ะ เป็นห่วง
1. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร) วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ นิคโคโล แมคีอาเวลลี (3 พฤษาคม คศ 1469 ตาย 21มิถุนายน คศ 1527 ที่เมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี) ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักปรัชญาการเมืองที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ เขาเป็นนักการทูต นักปรัชญา นักเขียน และเป็นหนึ่งในผู้นำในยุคเรอเนซองซ์ของอิตาลีจากแนวความคิดทางการเมือง
แมคีอาเวลลี่มีชื่อเสียงจากการเขียนหนังสือชื่อว่า The Prince (1532) ซึ่งเป็นงานเขียนด้านการเมือง หรือแนววิธีการปกครองที่เขาให้คำแนะนำแก่ตระกูลเมดิซี่ (Medici family)ที่ครองอำนาจในเมืองฟลอเรนซ์ในยุคนั้นที่ดินแดนอิตาลีแตกแยกเป็นแว่นแคว้นต่างๆ ต่างรัฐต่างช่วงชิงเพื่อครองความเป็นใหญ่ โดยมีเวนิชเป็นศูนย์กลาง
งานเขียนThe Princeทำให้เกิดลัทธิแมคีอาเวลีขึ้นมา ทำให้เขากลายเป็นบิดาของรัฐศาสตร์สมัยใหม่ นอกจากนี้ แมคีอาเวลลี่ยังเขียนหนังสือที่สำคัญอื่นๆเช่นDiscourses on Livy (คศ 1531), The Art of War (คศ 1521), Florentine Histories (คศ 1532), The Mandrake (คศ 1524).
มีคำพูดที่น่าคิด น่าฟัง และเป็นอมตะจากหนังสือThe Prince และงานเขียนอื่นๆของแมคีอ่เวลลี่ที่เราสามารถประยุกต์เอาไปใช้ประโยชน์ในการปกครอง และการบริหารได้
2. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร) สิ่งแรกที่เรารู้สึกได้จากเจ้าผู้ครองนครว่าเขาเป็นคนอย่างไร หรือมีปัญญาเพียงใด ก็ดูได้จากคนที่อยู่รายล้อมเขา
The first impression that one gets of a ruler and of his brains is from seeing the men that he has about him. 'Chapter XXII,' The Prince (1532)'Chapter XXII,' The Prince (1532)
3. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ถ้าหากเราต้องการให้คนเชื่อฟัง มันจำเป็นที่เราต้องรู้วิธีการสั่งการ
If one wishes to be obeyed, it is necessary to know how to command.
'Third Book: Chapter XXII' Discourses on Livy (1531)
4. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ตำแหน่งไม่ได้สร้างเกียรติให้กับคน คนต่างหากที่สร้างเกียรติให้กับตำแหน่ง
It is not titles that honor men, but men honor the titles.
'Third Book: Chapter XXXVII' Discourses on Livy (1531)
5. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
สิงโตปกป้องตัวมันเองไม่ได้จากกับดักสัตว์ หมาจิ้งจอกไม่สามารถปกป้องตัวเองได้จากหมาป่า เราต้องเป็นหมาจิ้งจอกเพื่อที่จะรู้กับดักสัตว์ และเป็นสิงโตเพื่อที่จะสร้างความหวาดกลัวให้กับหมาป่า
The lion cannot protect himself from snares, and the fox cannot defend himself from wolves. One must therefore be a fox to recognise snares, and a lion to frighten wolves.
'Chapter XVIII' The Prince (1532)
6. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ทุกคนเห็นว่า ท่านเป็นคนอย่างไรดั่งที่ปรากฎ น้อยคนที่จะรู้ว่าท่านเป็นคนอย่างไรจริงๆ
Everybody sees what you appear to be, few feel what you are.
'Chapter XVIII' The Prince (1532)
7. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ผู้ใดก็ตามที่ปรารถนาความสำเร็จ ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการกระทำให้เข้ากับยุคกาลเวลา
Whosoever desires constant success must change his conduct with the times.
'Third Book: Chapter IX' Discourses on Livy (1531)
8. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
สงครามเป็นสิ่งที่ต้องไม่เลี่ยง เพราะการเลื่อนออกไปมีแต่จะสร้างความได้เปรียบให้อีกฝ่าย
War was not to be avoided, and could be deferred only to the advantage of the other side.
'Chapter III' The Prince (1532)
9. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ไม่มีการงานใดจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากไปกว่าการงานที่ได้รับการปกปิดจากศัตรู จนกว่าจะถึงเวลาจัดการ
No enterprise is more likely to succeed than one concealed from the enemy until it is ripe for execution.
'Book Seven' The Art of War (1521)
10. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
มันจะเป็นการดีกว่าที่จะให้คนกลัวมากกว่าให้คนรัก ถ้าหากว่าท่านต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
It is much safer to be feared than loved, if one of the two has to be wanting.
'Chapter XVII' The Prince (1532)
11. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ไม่มีวิธีการใดที่จะปกป้องตัวเองจากคำสรรเสริญเยินยอไปดีกว่า การให้คนรอบข้างเข้าใจว่า พวกเขาจะไม่ทำให้ท่านเคืองใจจากการพูดความจริง
There is no other way of guarding one’s self against flattery than by letting men understand that they will not offend you by speaking the truth.
'Chapter XXIII' The Prince (1532)
12. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ไม่มีอะไรยากที่จะดำเนินการ ความสำเร็จก็ไม่แน่นอน และมีภัยอันตรายที่จะรับมือมากไปกว่าการริ่เริ่มที่จะจัดระเบียบทุกอย่างใหม่
There is nothing more difficult to carry out, nor more doubtful of success, nor more dangerous to handle, than to initiate a new order of things.
'Chapter VI' The Prince (1532)
13. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ความเกลียดชังได้รับจากผลงานที่ดี พอๆกับผลงานที่ชั่วร้าย
Hatred is gained as much by good works as by evil.
'Chapter XIX' The Prince (1532)
14. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
พวกผู้ชายมีแรงขับที่สำคัญสองสิ่งคือ ความรักและความกลัว
Men are driven chiefly by two things: love and fear.
'Third Book: Chapter XXI' Discourses on Livy (1531)
15. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ศาสดาพยากรณ์ทุกคนที่ติดอาวุธย่อมได้รับชัยชนะ ส่วนศาสดาพยากรณ์ที่ไม่ติดอาวุธล้มเหลวทั้งนั้น
All armed prophets have conquered and unarmed ones failed.
'Chapter VI' The Prince (1532)
16. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
เวลาเราทำให้ใครบาดเจ็บ มันต้องรุนแรงมากจนกระทั่งเราไม่ต้องกลัวว่าเขาจะล้างแค้น
The injury therefore that we do to a man must be such that we need not fear his vengeance.
'Chapter III' The Prince (1532)
17. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ผู้ใดที่ละเลยกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแทนที่จะทำในเป็นสิ่งที่ควรทำ ในไม่ช้าจะนำมาซึ่งความหายนะมากกว่าการปกป้องรักษา
He who neglects what is done for what ought to be done, sooner effects his ruin than his preservation.
'Chapter XV' The Prince (1532)
18. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
เมื่อทรัพย์สิน หรือเกียรติยศของพวกเขาไม่ได้ถูกแตะต้อง พวกเขาส่วนมากจะอยู่อย่างพอใจ
When neither their property nor their honor is touched, the majority of men live content.
'Chapter XIX' The Prince (1532)
19. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ในเรื่องราวทุกอย่างของมนุษย์ เราไม่สามารถกำจัดอุปสรรคอย่างหนึ่ง โดยที่ไม่วิ่งเข้าหาอุปสรรคอีกอย่างหนึ่ง
In all human affairs, we cannot rid ourselves of one inconvenience without running into another.
'First Book: Chapter VI,' Discourses on Livy (1531)
20. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
คล้ายกับทุกสิ่งที่มีเขาและงอกโตอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีรากที่ฝังลึก เมื่อพายุมาก็ทำลายพวกมันย่อยยับ
Like all other things which are horn and grow rapidly, cannot have deep roots, so that the first storm destroys them.
'Chapter VII' The Prince (1532)
21. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
เมื่อมีเจตจำนงค์ที่แรงกล้า ความยากลำบากก็จะไม่ยากเย็นอะไร
Where the willingness is great the difficulties cannot be great.
'Chapter XXVI' The Prince (1532)
22. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ในเวลาสงคราม ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการรู้ว่าจะใช้โอกาสที่ดีอย่างไร เมื่อเวลามาถึง
Nothing is of greater importance in time of war than in knowing how to make the best use of a fair opportunity when it is offered.
'Book Seven' The Art of War (1521)
23. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ผู้ใดก็ตามที่ต้องการสร้างรัฐใหม่ขึ้นมา พร้อมกับมีกฎหมายบังคับใช้ต้องเริ่มด้วยสมมุติฐานที่ว่า คนทุกคนเลวและพร้อมที่จะแสดงธรรมชาติที่ชั่วร้ายนั้นออกมา
Whoever desires to found a state and give it laws, must start with assuming that all men are bad and ever ready to display their vicious nature, whenever they may find occasion for it.
'First Book: Chapter III' Discourses on Livy (1531)
24. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
การให้คุณควรที่จะให้ทีละเล็กทีละน้อย เพื่อว่าผู้ที่ได้รับจะรู้สึกดีขึ้นมากกว่าเดิม
Benefits should be granted little by little, so that they may be better enjoyed.
'Chapter VIII' The Prince (1532)
25. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
เราไม่สามารถพูดถึงโชคลาภ หรือความคู่ควรได้ ในแง่ที่ว่าเขาประสบความสำเร็จโดยไม่มีอย่างใดอย่างหนึ่ง
We cannot attribute to fortune or merit that which he achieved without either.
'Chapter VIII' The Prince (1532)
26. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ผู้ที่หลอกลวงมักจะหาคนที่ยอมให้ถูกหลอกได้เสมอ
One who deceives will always find those who allow themselves to be deceived.
'Chapter XVIII' The Prince (1532)
27. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
ผู้ปกครองที่ฉลาดต้องไม่รักษาศรัทธา ถ้าหากว่าการรักษาศรัทธานั้นทำให้เขาเสียผลประโยชน์
A prudent ruler ought not to keep faith when by so doing it would be against his interest.
'Chapter XVIII' The Prince (1532)
28. The Prince (เจ้าผู้ครองนคร)
โดยธรรมชาติ น้อยคนที่จะมีความกล้าหาญ แต่วินัยและประสบการณ์ที่ดีจะทำให้หลายคนมีความกล้าหาญ ระเบียบและวินัยที่ดีในกองทัพเป็นสิ่งที่พึ่งพาได้มากกว่าความดุร้าย
Few men are brave by nature, but good discipline and experience make many so. Good order and discipline in an army are more to be depended upon than ferocity.
'Book Seven' The Art of War (1921)
เงินบุญ ยุคศิวิไลซ์ เงินบุญ เงินบารมี แห่งยุคพระศรีอริยเมตไตรย