ITM - Egon von Greyerz chat with Lynette Zang
The Dark Years Are Here
เรากำลังจะเข้ายุคมืด
Streamed Live Sep 25, 2020
1:50....Lynette...คุณเคยเขียนบทความ The Dark Years Are Here ว่าโลกกำลังจะต้องประสบกับอีเว้นท์ที่สับสนวุ่นวายยาวเป็นซีรี่ส์ ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนส่วนใหญ่ ...ซีรี่ส์นี้จะยาวนานถึงสองทศวรรษ .....อยากให้อธิบาย
Egon....เรื่องที่เราต้องเข้าใจคือ ในความเสี่ยงทั้งหมดนี้ ระยะเวลาอาจจะนานมากกว่าที่เราคาดไว้ เราต้องเข้าใจเมื่อเราคิดจะลงทุนเพื่อปกป้องความมั่งคั่งของเรา ผมก่อตั้งบริษัทมาแล้วถึงยี่สิบปี เพราะเห็นว่ามันมีความเสี่ยงมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ว่ามันถึงเวลาที่จะต้องซื้อทองคำ physical และเก็บมันเอาไว้นอกระบบแบ้งกิ้งได้แล้ว ...เรื่องนี้เป็น long-term trend ที่พวกเราโชคดีที่ได้อยู่เห็นมัน
ยุคมืดที่เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน กินเวลายาวนานนับร้อยปี ครั้งนี้ก็ไม่น่าจะต่างกัน ....คุณลองดูถึงความเสี่ยงของประเทศสหรัฐสิ ประเทศนี้ไม่เคยได้ดุลบัญชีเกินมาตั้งแต่ปี 1930 เลย อาจจะมีสักสองครั้งในช่วงปี 40s และอีกสองครั้งเล็ก ๆ ช่วงปี 50s (แต่ในยุคคลินตันที่อ้างกันเป็นเรื่องที่ไม่จริง) ...เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่ยังคงอยู่ได้..โดยไม่ได้มีการสร้างผลผลิตเพิ่มมาเลยตลอด 90 ปี
วันนี้ก็มาถึงวาระสุดท้ายของมันแล้ว สถานการณ์มันจะเร่งตัวขึ้นเร็วมาก ๆ ...ถ้าจะดูที่ตัวชี้ เราต้องไม่หลงทางมัวไปดูตลาดหุ้นเพราะมันไม่เกี่ยวเลย เศรษฐกิจแท้จริงต้องดูที่ค่าของเงิน..ที่มันจะสะท้อนให้เห็นได้ชัดว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ตั้งแต่ปี 1970 มา เงินทุกสกุลในโลกสูญค่าไปถึง 97-99% ....เอาเฉพาะตั้งแต่ปี 2000 มาก็ 85% เข้าไปแล้วใน real terms ..ซึ่งหมายถึงเมื่อเทียบกับทองคำ จะเห็นได้ว่ามันเร่งเร็วขึ้นตอนหลังนี่เอง เงินที่พิมพ์ออกมาตอนหลัง ๆ นี่มีค่าศูนย์ตั้งแต่ออกมาเลย ...และมันกำลังจะจุดชนวนให้เกิดการล่มสลายของเศรษฐกิจในทุก ๆ ประเทศ ....ตอนนี้เรากำลังจะเข้าสู่ dark age อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรากำลังเห็นปัญหา social unrest กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกที่เกิดจากความอดอยาก ...การย้ายถิ่นฐานกำลังเกิดขึ้นทั่วไป ...สำหรับในประเทศที่รับผู้อพยพต่างชาติได้ เช่นมีงานให้ หรือมีสวัสดิการให้ก็รอดตัวไป แต่ถ้าผู้อพยพที่มาพร้อมกันเป็นกลุ่มก้อนไม่มีรายได้ ไม่มีที่อยู่หรือสวัสดิการอื่น ๆ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ...เรื่องนี้กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นทั่วโลก
ผู้อพยพที่เป็นปัญหาเหล่านี้มาจากการอนุญาตให้เข้าประเทศได้จากนักการเมืองทั้งนั้น..ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลมนุษยธรรมหรือผลประโยชน์ส่วนตัว
12:20....Lynette.... ตอนนี้ Fed มีแผนจะใช้เงินดิจิตัล และมีการบอกว่าจะอัดฉีดเงินนี้เข้าบัญชีส่วนบุคคลเป็นรายตัว นี่จะเป็นการแก้ปัญหาหรือเปล่า
Egon..... เหตุผลหนึ่งที่ออกเงินดิจิตัลคือ เป็นการทำให้คนลืมเงินดอลลาร์กระดาษ ลืมหนี้สินที่มีอยู่ให้หมด แล้วมาเริ่มกันใหม่ด้วยเงินดิจิตัล ....แต่ไม่ว่าจะเป็นเงินอะไร มันก็คือเงินเฟียต ที่ไม่ใช่ได้มาจากการแลกด้วยแรงงานหรือการผลิตเลย เงินเฟียตดิจิตัลที่เอามาแจก..มันมีค่าเป็นศูนย์มาตั้งแต่ต้นเลย ทรัพย์สินที่อิงอยู่กับเงินเหล่านี้ก็มีมูลค่าเป็นศูนย์เหมือนกัน
17:15...Lynette... ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นอยู่ทั่วโลก คือทุกคนก็ต้องเล่นตามเกมที่มีการวางเอาไว้ นี่คือตลาดเงินเฟียตเพียงแห่งเดียวที่คุณ ๆ จะลงทุนได้ ...ตลาดหุ้น..ตลาดพันธบัตร และอสังหาฯ ทั้งหลายก็ถูกแปลงเป็นหลักทรัพย์กองทุน securities ..แม้แต่ทองคำก็ยังเป็นการขายกระดาษที่ดึงเอาการลงทุนของผู้คนเข้าทำสัญญาไปได้
Egon....นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับทองคำ เพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าตลาดแท้จริงของทองคำคือตลาด physical เท่านั้น ....แต่การสร้างราคากลับอยู่ในตลาดทองกระดาษซึ่งไม่ใช่ตลาดที่แท้จริงเลย
ตลาดทองคำ physical เวลานี้มีแต่แรงซื้อไม่มีแรงขายเลย จนกระทั่งต้องมีการเพิ่มพรีเมี่ยมเข้าไปในราคาซื้อกรณีที่เป็นล็อตใหญ่
23:00....Egon....ยอดรวมการลงทุนในทองคำทั่วโลกตอนนี้มีอยู่ประมาณ $2.5 ล้านล้าน ..ส่วนทรัพย์สินทางการเงินเช่นพวกกองทุนต่าง ๆ มีอยู่ประมาณ $500 ล้านล้าน ...ถ้ากองทุนเหล่านี้ใช้เงินแค่ 1% เข้ามาลงทุนในทองคำคือ $5 ล้านล้าน ทั่วโลกก็ไม่มีทองคำพอให้แล้ว ถ้าเป็นในราคาปัจจุบัน ...ทองคำเป็นทรัพย์สินที่มีจำนวนที่แน่นอน (finite)
28:45....Lynette.... เมื่อมีการรีเซ็ท จะเกิดอะไรขึ้นกับบรรดาทรัพย์สินทางการเงิน (ทรัพย์สินกระดาษ) ที่เราเรียกกันว่าผลิตภัณท์ทางการเงิน
Egon....เงินทั้งหมดที่พิมพ์ออกมาจะไปที่แบ้งค์ และส่งต่อไปที่ตลาดหุ้นและตลาดบอนด์แทนที่จะถึงมือพวกทำธุรกิจจริง ๆ ....แล้วพวกทรัพย์สินกระดาษเหล่านั้นทั้งพันธบัตรหรือแม้แต่หุ้นก็จะต้องร่วงไปถึง 95% ...นอกจากนี้ทรัพย์สิน physical บางอย่างเช่นอสังหาฯทั้งหลายก็ล้วนมีราคาที่สูงเกินจริงจากเงินไร้ค่าเหล่านั้น ..พวกนี้ก็จะร่วงถึง 90% เหมือนกัน
สิ่งเหล่านี้จะเห็นได้ชัดมากที่สุดในสหรัฐ เพราะนี่คือประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด แต่มันก็จะเกิดอย่างรุนแรงในโลกตะวันตกและในจีน แต่สำหรับจีนอาจมีปัญหาน้อยกว่าเพราะมันไม่มีหนี้เป็นดอลลาร์ ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาภายในประเทศ ตลอดรวมถึงปัญหาการเลี้ยงดูคนทั้งประเทศซึ่งมีนับพันล้าน
ที่มา: สายัณห์ รุจิรโมรา