เรื่องเล่าขาน ตำนานของผู้เฒ่าเมืองจีน ....................................................................................
ท่านผู้เฒ่าเมืองจีน
ผู้สืบทอดพันธสัญญาจากผู้เฒ่าเมืองจีน
ผู้สืบทอดพันธสัญญา เป็นผู้ที่ท่านผู้เฒ่าเมืองจีน ให้ความไว้วางใจในการดูแลและเข้าถึงระบบทุกส่วน
ของทองคำสมัยราชวงศ์ชิง (ประเทศจีน) ที่ถูกขนมาเก็บซ่อนไว้ ตลอดแนวธรรมชาติตามลุ่มแม่น้ำโขง
โดยผู้ทำการขนทองออกจากเมืองจีน หนี กองทัพญี่ปุ่น เพื่อนำมาซ่อนไว้
คือ ทหารจีนที่เป็นกองทัพของ “ตระกลูหลี่”
ธนาคารระดับโลกแห่งหนึ่งใน ฮ่องกง ประเมินมูลค่าทองคำจากใบคุมทอง(เอกสารเก่าที่หลงเหลือ)
เป็นมูลค่าในปัจจุบันมากกว่า 500 ล้านล้านดอลล่าสหรัฐ (500 ทีเลี่ยน)
ทองคำนั้นมีหลายกองหลายรหัส ใบคุมทองบางฉบับตีมูลค่าได้มากกว่า
1,000 ล้านล้านดอลล่าสหรัฐ (1,000 ทีเลี่ยน)
นั้นคือมูลค่าของทองคำที่ถูกเก็บซ่อนไว้ตามธรรมชาติในแถบลุ่มแม่น้ำโขง
ยาวลงมาตั้งแต่ยูนาน สิบสองปันนา ลาว พม่า ไทย กัมพูชา จนถึงเวียดนาม
ที่สำคัญประเทศลุ่มแม่น้ำโขงรวมถึงประเทศ
จะรอดจากการเอารัดเอาเปรียบจากมหาอำนาจได้
ก็จะต้องใช้เงื่อนไขที่แผ่นดินของเราเป็นเก็บซ่อนทองคำไว้จำนวนมาก
(ประเทศลาวมีจำนวนมากที่สุด ประเทศใกล้กันและประเทศอื่นๆ ก็รองลงมา)
ที่สำคัญที่สุดโลกจะรอดจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้
ก็เพราะเงินบุญที่ได้จากทองคำพวกนี้หละ ถ้าพากันหาเจอนะ
เจอทองคำพวกนี้เมื่อไหร่โลกก็จะสงบได้ก็แล้วกัน
ถ้าหาทองคำพวกนี้ยังไม่เจอ ก็จะยังไม่มีประเทศใดสงบลงได้หรอก
ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอีกกี่รอบ แล้วได้ใครมาเป็นประเทศมหาอำนาจก็ตาม
ทุกอย่างจะวนถังอยู่อย่างนี้ หาความสงบไม่เจอ และจะเกิดการศูนย์เสียบุคคลสำคัญ
และเกิดการศูนย์เสียของผู้คนจำนวนมากเหมือนเดิม จะวนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ถ้าหาทองคำพวกนี้ยังไม่เจอ ก็จะยังไม่มีประเทศใดสงบลงได้หรอก
จะพากันหาเจอหรือเปล่านั้นสิ..สำคัญยิ่ง...
เชื่อเถอะว่ามันคือเรื่องจริงที่จะทำให้คุณและคนที่คุณรักนั้นรอดปลอดภัยได้
“ถ้าท่านผู้เฒ่าเมืองจีนท่านยังอยู่ บารมีของผู้ทรงศีลของท่าน น่าจะทำให้แผ่นดินนี้เย็นลงได้ พอสมควร
แต่ท่านผู้เฒ่าเมืองจีนท่านไม่ได้อยู่ ท่านละสังขารไปแล้ว เหลือแต่ผู้สืบทอดพันธสัญญา ซึ่งจะเป็นใครก็ยังไม่มีใครรู้”
หรือเราต้องรอจนกว่าโลกจะกลับมาใช้มาตรฐานทองคำเหมือนเดิมก่อน ทองคำที่ถูกเก็บซ่อนไว้แถบลุ่มน้ำโขงถึงจะโผล่ออกมาให้พวกเราได้เห็น
หรือแสดงว่า เงินบุญ เงินของยุคใหม่ไม่ว่าก้อนไหนก็จะยังไม่สามารถออกมาได้ จนกว่าทุกประเทศทั่วโลกจะพร้อมใจกันกลับมาเข้าสู่ มาตรฐานทองคำ ให้ได้โดยพร้อมเพียงกันเสียก่อน

แหล่งศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
ประวัติความเป็นมาของ "ทองคำ"และความเกี่ยวโยงของกลุ่ม "Dragon Family"
ทองคำมีมากกว่าที่คุณรู้ (ทองคำ คือ มหาอำนาจ Super Power)
ยุคศิวิไลซ์: พันธสัญญามรดกโลก ทรัพย์แผ่นดิน (ท่านผู้เฒ่าหลี่เหมยฮัว)
รู้ทัน The City of London - "The Crown" - ผู้เบื้องหลังระบบการเงินโลก
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติรัสเซีย
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลังบิดาแห่งคอมมิวนิสต์
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อสงครามโลกครั้งที่ 1
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อสงครามโลกครั้งที่ 2
นายทุนกลุ่มทุนระบบการเงินโลก ผู้อยู่เบื้องหลัง การปฏิวัติวัฒนธรรมจีน
แผนที่ทางรถไฟของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (เส้นทางสายทองคำ)
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน กับความคล้ายในปัจจุบันสอนอะไรเรา
ตระกูลรอธส์ไชลด์ (Rothschild) ตระกูลที่รวยที่สุดในโลกจริงหรือไม่
The Great Reset ถึงเวลาเริ่มต้นระบบโลกใหม่หรือยัง ตอนที่ 1 - 7
ระบบการเงินการธนาคารจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหลัง The Great Depression
Agenda 2030 การวางโครงสร้างระบบโลกใหม่ (ยุทธศาสตร์การลดจำนวนประชากรโลก)
เราอยู่ในระหว่างสงคราม : เตรียมรับเศรษฐกิจโลกทรุด ตกต่ำหนักสุดในชีวิต
พญานาคเขมรโตนเลสาบ คำสาบที่จีนจะสิ้นแผ่นดิน ในยุคของผู้นำจีนไม่มีคุณธรรม
รู้จักไหม
แชร์ทองคำโบราณ
แชร์ราชวงศ์โบราณทั่วทั้งโลก เพื่อความสงบสุขของโลกและความปลอดภัย ในการค้าขายระหว่างประเทศยุคราชวงศ์
นี่คือสิ่งที่ราชวงศ์โบราณร่วมมือกันเพื่อพยายามสร้างสามัคคีธรรมและลดสภาวะสงครามในโลกใบนี้
IMF กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับระบบการเงินมาตรฐานทองคำรอบใหม่
วาติกัน ซิตี้ออฟลอนดอน และวอชิงตัน
การดึงลูกหลายตระกลูลีเข้าเป็นสมาชิก ก็คือ การตามหาผู้เฒ่าตระกลูหลี่
ตระกลูลี ก็คือ ตระกลูหลี่นั้นหละครับ เขียนเป็นภาษากฤษเหมือนกัน (Lee)
สิ่งที่ระบบการเงินโลกต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ ทองคำ ทองคำจำนวนมหาศาล เพื่อที่จะปรับสมดุลกับ หนี้กองมหาศาล ของทั้งโลกได้
ทองคำ ทองคำ และทองคำ
การใดทำแล้วร้อนใจภายหลังการนั้นไม่ดี
การใดทำแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง การนั้นดี
การใดทำแล้วไม่ร้อนใจภายหลัง
ทั้งเป็นประโยชน์ตนและเป็นประโยชน์ท่านด้วย การนั้นดีมาก
โปรโตคอล บทที่ 6 ตอนที่1 เทคนิคในการเข้าครอบครอง TAKE-OVER TECHNIQUE
เมื่อต้องการยึดครองรัฐต่างๆ แต่ไม่ต้องการให้รัฐนั้นเกิดความบอบช้ำและเสียหายทางกายภาพ เพราะจะทำให้เราได้ประโยชน์ทางเศรษกิจน้อยลง ดังนั้นเทคนิคพิเศษจึงต้องมา……
กลยุทธ์การยึดครองแต่ไม่ครอบครองแบบเบ็ดเสร็จจึงปรากฏ…
พวกเรามาศึกษาให้รู้ทันเขา น่าจะดี……..
บทแปล
PROTOCOL No. 6 Take-Over Technique
โปรโตคอล 6 เทคนิคในการเข้าครอบครอง
1. ในไม่ช้านี้เราจะสร้างการผูกขาดขนาดใหญ่ สร้างแหล่งกักเก็บความร่ำรวยขนาดมหึมาของพวกเรา ในที่สุด ความมั่งคั่งของพวก GOYIM เองที่ก็ไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องได้ จะดำดิ่งไปสู่จุดต่ำสุดพร้อมๆกับความน่าเชื่อถือของรัฐ หลังจากวันที่ระบบการเมืองล่มสลาย
2. ท่านสุภาพบุรุษในที่นี้ ผู้ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ คุณลองจินตนาการดูสิ มันจะเป็นอย่างไร หากเราสามารถล้มกระดานตามทั้งหมดนี้ได้ (ทั้งหมดคือ การผูกขาดขนาดใหญ่แหล่งกักเก็บความร่ำรวยขนาดมหึมา)
3. เราจะทำทุกวิถีทางให้ผู้คนเห็นถึงบทบาทความสำคัญของ Super Government ซึ่งพวกเราได้สร้างขึ้นมา โดยการแสดงให้เห็นว่า Super Government เป็นผู้พิทักษ์และเป็นผู้มีพระคุณ ต่อบุคคลที่ยอมศิโรราบแก่เรา
4. ชนชั้นสูงของ GOYIM ได้หมดอำนาจทางการเมืองไปแล้ว - เราจึงไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจพวกมันอีกต่อไป หากเขาเหล่านั้นยังเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ เขาเหล่านั้นอาจเป็นอันตรายต่อเราได้ เพราะพวกเขาจะอยู่ได้ด้วยความพอเพียงในทรัพยากรที่เขามีอยู่(ที่ดิน) ดังนั้นจึงจำเป็นสำหรับเราไม่ว่าจะใช้ต้นทุนเท่าใดก็ตาม เพื่อที่จะยึดครองสิทธิการถือครองที่ดินของคนเหล่านี้ สิ่งที่ดีที่สุดในการทำให้บรรลุเป้าหมายนี้คือการเพิ่มภาระต่างๆให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดิน การเพิ่มภาระหนี้สินให้กับที่ดิน มาตรการเหล่านี้จะตรวจสอบการถือครองที่ดินและบันทึกข้อมูลไว้ โดยได้รับการยินยอมอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆจากผู้เป็นเจ้าของที่ดิน
5. พวกขุนนางหรือชนชั้นสูงของพวก GOYIM ซึ่งได้รับมรดกตกทอดมาและไม่พึง พอใจในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มี ก็จะผลาญมันจนหมดและวอดวายไปอย่างรวดเร็ว
ที่มา: DinoTech5.0
โปรโตคอลบทที่ 1 ตอนที่ 2 โอกาสทอง (GOLD)
โอกาสทอง..ในการเข้ายึดครอง!!!
จากความเดิมในตอนที่ 1 ถึงแม้ว่า Zionist จะไม่เชื่อเรื่องเสรีภาพแต่เขาก็ได้สร้างลัทธิเสรีนิยมขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือในการสอดแทรกและทำลายระบบการปกครองเดิมของรัฐ โดยผลักดันให้ใช้การลงคะแนนเสียงเพื่อหาความชอบธรรมหรือสร้างความขัดแย้งในสังคมจากความเห็นที่ไม่ตรงกัน นำไปสู่การต่อสู้ระหว่างชนชั้นหรือกลุ่มที่มีความเห็นต่าง ทำให้รัฐไม่สามารถบริหารงานได้ จนนำไปสู่การล่มสลายของรัฐต่างๆ แล้วจึงเข้ายึดอำนาจรัฐนั้นๆ ผ่านการเสนอให้ความช่วยเหลือต่างๆ
(คุ้นๆเหมือนพึ่งจะผ่านมาไม่นานนี้ เราโชคดีรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ครั้งหนึ่ง แต่เหมือนกำลังมีความพยายามใหม่เกิดขึ้นมาอีกแล้ว……)
บทแปล
ตอนที่ 1 โอกาสทอง - GOLD
7. เมื่อวันและเวลาของเรามาถึง เสรีนิยมจะเป็นพลังหนึ่งที่เปรียบเสมือนพลังแห่ง “ทองคำ” ที่จะเข้ามาแทนที่ระบบเดิมๆ ซึ่งในช่วงที่ถูกครอบงำด้วยศรัทธาในลัทธิเสรีนิยม เมื่อไม่มีใครที่จะเข้าใจแนวความคิดเรื่องเสรีภาพอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้วิธีที่จะใช้มันอย่างพอเหมาะพอดี ทำได้แค่ให้ผู้คนปกครองกันเองชั่วระยะเวลาหนึ่ง และผู้คนเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปเป็นฝูงชนที่ชุลมุนวุ่นวายในท้ายที่สุด ต่อจากนั้นพวกเราจะได้เห็นพวกเขาเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ทำลายล้างกันเองจนบานปลายกลายเป็นสงครามระหว่างชนชั้น ท่ามกลางการล่มสลายของรัฐต่าง ๆ และการถูกลดความสำคัญของพวกเขาลงจนแทบไม่เหลืออะไร
8. ไม่ว่ารัฐจะอ่อนแอลงจากความไม่สงบภายใน ไม่ว่าความขัดแย้งภายในจะทำให้รัฐตกอยู่ใต้อำนาจของศัตรูภายนอก ไม่ว่าจะอยู่ในกรณีใดก็ล้วนแต่เป็นความสูญเสียที่เอากลับคืนมาไม่ได้ และรัฐนั้นก็ได้ตกอยู่ในอำนาจของเราแล้ว เมื่อศูนย์รวมอำนาจทั้งหมดอยู่ในกำมือของเรา เราเพียงแต่ยื่นฟางเส้นหนึ่งไปให้ แม้ว่ารัฐนั้นๆ จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม..สุดท้ายก็จำต้องคว้าฟางเส้นนี้ไว้..ไม่เช่นนั้นรัฐนั้นก็จะยิ่งตกต่ำลงไปกว่านี้อีก
9.หากมีผู้ใดที่มีแนวคิดแบบเสรีนิยมกล่าวถึงภาพสะท้อนของเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นนั้นว่าเลวทราม ผิดศีลธรรม ฉันก็จะถามคำถามเหล่านี้กับเขาว่า “ถ้าทุก ๆ รัฐมีศัตรูสองด้าน โดยที่ด้านหนึ่งเป็นศัตรูจากภายนอก ซึี่งมันมักไม่ถูกมองว่าเป็นสิ่งเลวทราม ผิดศีลธรรม ในการที่จะใช้ทุกวิถีทางและทุกความสามารถในการต่อสู้ ยกตัวอย่างเช่นการจู่โจมแบบไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัวว่าจะถูกบุกทำให้ไม่ทันได้เตรียมการป้องกันเอาไว้ก่อน พวกเขาจะบุกจู่โจมในเวลาที่ศัตรูไม่ทันระวังตัว ในจังหวะที่เผลอ หรือทุ่มกำลังให้มากกว่าในการจู่โจมเข้าไป ส่วนอีกด้านหนึ่งคือผู้ทำลายโครงสร้างสังคมและสาธารณประโยชน์ภายในรัฐ ได้กระทำด้วยวิธีการแบบเดียวกัน..มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะถูกกล่าวหาว่าเลวทราม ผิดศีลธรรม และยอมรับกันไม่ได้?
10. มันเป็นไปได้ไหมที่ความคิดเห็นที่มีเหตุมีผลอย่างถูกต้อง จะถูกคาดหวังความสำเร็จในการชี้นำฝูงชนด้วยการช่วยให้คำแนะนำและการให้เหตุผลต่างๆ เมื่อมีการคัดค้านหรือเกิดความขัดแย้งที่แม้ว่าอาจจะไร้เหตุผล และเมื่อการคัดค้านนั้นอาจจะเป็นการเข้าข้างผู้คนที่มีพลังในการใช้เหตุผลแค่เพียงผิวเผิน? ผู้คนในมวลชนและผู้คนของมวลชนล้วนถูกชี้นำด้วยความหลงใหลเล็ก ๆ น้อย ๆ ความเชื่อ ธรรมเนียมที่คับแคบ และทฤษฏีที่อ่อนไหว ย่อมตกเป็นเหยื่อของความไม่ลงรอยกันของกลุ่มคน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อข้อตกลงใด ๆของเรา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความขัดแย้งที่มีเหตุมีผลสมควรก็ตาม การแก้ปัญหาทุกครั้งของฝูงชนขึ้นอยู่กับโอกาสและเสียงข้างมากที่ผนึกรวมกัน ซึ่งกระทำโดยสัญชาตญาณ จากความไม่รู้ถึงความลับทางการเมือง และนำมาซึ่งการลงมติที่ไร้สาระต่าง ๆ อันเป็นต้นกำเนิดของอนาธิปไตยในการบริหารจัดการ
11. การปกครองไม่ได้มีอะไรเลยที่สอดคล้องกับศีลธรรม ผู้ปกครองที่ใช้ศีลธรรมในการปกครองไม่ใช่ผู้นำที่มีความสามารถ ดังนั้นบัลลังก์ของเขาจึงไม่มั่นคง ผู้ที่ประสงค์จะปกครองต้องมีทั้งความฉลาดแกมโกงและความเสแสร้ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้นำระดับชาติ ความตรงไปตรงมาและความซื่อสัตย์ถือเป็นสิ่งชั่วร้ายในทางการเมือง..เพราะคุณสมบัติเหล่านี้จะฉุดดึงผู้ปกครองของพวกเขาลงจากบัลลังก์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน ซึ่งร้ายกาจมากกว่าศัตรูผู้ทรงพลังที่สุด คุณสมบัติดังกล่าวต้องเป็นคุณลักษณะของอาณาจักรของพวก GOYIM เท่านั้นและเราต้องไม่ถูกชี้นำโดยพวกเขาเหล่านั้น
ที่มา: DinoTech 5.0
โปรโตคอลบทที่ 22 อำนาจแห่งทองคำ
จากโปรโตคอลบทที่ 21 ที่ได้กล่าวถึงการจัดระบบการเงินและการกู้ยืมเงินของรัฐ GOYIM ซึ่งจะนำไปสู่ความล่มสลายและสูญเสียความมั่งคั่งแห่งรัฐในท้ายที่สุด
และในโปรโตคอลบทที่ 22 นี้จึงเป็นการย้ำถึงความเชื่อมั่นของ Zionist ในการเข้าปกครองและยึดครองโลก ด้วยการใช้พลังอำนาจแห่งทองคำ ซึ่งเขาสามารถระดมไม่ว่าจำนวนเท่าใดก็ตาม เท่าที่พอใจภายได้ในระยะเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น
นอกจากนั้น Zionist ยังได้ยอมรับว่าเป็นผู้จัดการให้เกิดเหตุการณ์ร้ายต่างๆ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตนเองต้องการ..ซึ่งนั่นก็คืออำนาจและการจัดระเบียบสังคมใหม่นั่นเอง
อีกทั้งได้แจกแจงความเข้าใจผิดภายใต้แนวคิดเสรีภาพให้แก่ GOYIM ว่า “เสรีภาพ” มิได้หมายถึงการที่จะกระทำสิ่งต่างๆได้ตามใจชอบของแต่ละบุคคล หากแต่ “เสรีภาพ” จะต้องเกิดขึ้นภายใต้กฎระเบียบและกรอบของสังคมตามที่ Zionist เป็นผู้กำหนด
Zionist ต้องการภาพพจน์ที่สูงส่งดุจพระเจ้า และทรงอำนาจสูงสุดจนเสมือนเป็นผู้บันดาลความสุขให้กับมวลชนทั้งหลาย
ในโปรโตคอลบทสั้นๆนี้ ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายและความเชื่อมั่นของ Zionist ต่อการขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของโลกใบนี้
โปรโตคอล 22 Power of Gold อำนาจแห่งทองคำ
1. จากทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวมา ฉันมุ่งมั่นที่จะอธิบายถึงความลับของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น, สิ่งที่ผ่านมา, และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้จะนำมาสู่เหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ความลับเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับ GOYIM อันเกี่ยวเนื่องกับระบบการเงิน ซึ่งเรื่องนี้ ฉันจะกล่าวเพิ่มอีกเล็กน้อย
2. เมื่อถึงเวลาของเรา เรามีสิ่งที่มีพลังงานอำนาจมากที่สุดในมือของเรา นั่นก็คือ ทองคำ ภายในเวลาเพียง 2 วัน เราสามารถที่จะจัดหามันได้จากคลังของเรา ไม่ว่าจำนวนเท่าใดก็ตาม เท่าที่เราพอใจ
3. ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อีกแล้วใช่ไหมว่า การครองอำนาจของเราถูกกำหนดไว้แล้วโดยลิขิตของพระเจ้า?
ด้วยความมั่งคั่งขนาดนี้ เราจะไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอนในการพิสูจน์ว่า ความชั่วร้ายทั้งหลายที่เรากระทำในหลายศตวรรษที่ผ่านมานั้น คือการจัดระเบียบของสิ่งต่างๆ ซึ่งผลในที่สุดของที่สุดแล้วคือความผาสุกที่แท้จริง นำมาซึ่งทุกสิ่งดั่งใจสั่ง?
แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่รุนแรง แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เราจะออกอุบายในการพิสูจน์ว่าเราเป็นผู้มีพระคุณผู้ส่งคืนค่าเช่าและคืนสภาพที่ดีแก่ผืนดินที่เสียหาย พร้อมทั้งให้เสรีภาพแก่บุคคล และหลังจากนั้น เราจะทำให้มันพอใจกับความสงบสันติ พร้อมด้วยลำดับศักดินาที่เหมาะสม ภายใต้กรอบกฏระเบียบของกฎหมายที่กำหนดโดยเราอย่างเข้มงวด เราจะทำให้ทุกคนเข้าใจเกี่ยวกับคำว่าอิสรภาพอย่างง่ายๆว่า อิสรภาพมิได้มีไว้สำหรับทุกคนที่คิดอยากจะทำอะไรก็ได้ โดยไม่ถูกควบคุมด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆ แท้ที่จริงแล้วอิสรภาพเป็นเรื่องของมโนธรรม และความเสมอภาค อิสรภาพของพวกไร้ปัญญาจะเข้าใจว่ามันคือ การมีสิทธิที่จะก่อกวนคนๆหนึ่ง และปั่นหัวคนอื่นผ่านการปราศรัยที่เลวทรามต่ำช้า แล้วสร้างความโกลาหลวุ่นวายในหมู่ชน เราจะทำให้ทุกคนรู้ว่าอิสรภาพที่แท้จริงนั้นคือการไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของคนซึ่งดำเนินชีวิตอย่างมีเกียรติ ศักดิ์ศรีของมนุษย์ถูกห่อหุ้มด้วยการตระหนักในสิทธิและการไร้สิทธิ(ไม่สามารถทำบางสิ่ง) มิได้หมายถึงสิทธิ์ทั้งหมดตามแต่ที่บุคคลจะนึกคิดเอาเองตามอัตตาของเขา
4. ผู้ทรงอำนาจเพียงหนึ่งเดียว จะโดดเด่นขึ้นมาด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จะชี้นำสิ่งต่างๆ และไม่เข้าไปวุ่นวายกับพวกผู้นำและนักปราศรัยที่ตะโกนเรียกร้องอย่างไร้เหตุผลถึงสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าหลักการอันยิ่งใหญ่ซึ่งพูดตรง ๆ แล้วมีแต่อุดมการณ์เท่านั้น….ผู้ทรงอำนาจของเราจะครองบัลลังค์สูงสุด ที่บัญชาได้แม้กระทั่งความสุขทั้งหมดของมวลชน และด้วยอำนาจบารมีของผู้ทรงอำนาจนี้จะทำให้ประชาชนทุกคนยอมคุกเข่าลงเบื้องหน้า ด้วยความยำเกรง พลังอำนาจที่แท้จริงซึ่งไม่มีเงื่อนไขใด ๆ จะมาบังคับได้ แม้กระทั่งพระผู้เป็นเจ้า จึงไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาใกล้พลังอำนาจนี้
ที่มา: DinoTech 5.0
ทองคำกับผู้กุมชะตา กำลังวางเกมใหญ่
City of London ...เมืองที่ไม่มีใครมองเห็น
Bond Yield SuperPower บอนด์ยิลด์ ซุปเปอร์พาวเวอร์
จาก DIgital system สู่ Quantum system