Manufactured Uncertainty Jeff Thomas - International Man
ภาพที่เราเห็นเป็นเรื่อง "ธรรมดา" ในวันนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างอย่างน่าทึ่ง ในอนาคต
เขตแดนหลาย ๆ ประเทศจะมีการเปลี่ยนแปลงไป .....ลักษณะการปกครองประเทศของรัฐบาลที่เราคุ้นเคยก็จะเปลี่ยนไป เอกลักษณ์อาจค่อย ๆ เปลี่ยน หรืออาจเปลี่ยนแบบถอนรากถอนโคนไปเลย
ความมั่งคั่งที่มีอยู่ในโลกจะมีการเปลี่ยนมือกันครั้งใหญ่ ทรัพย์สินจำนวนมากอาจเปลี่ยนไปสู่มือของคนจำนวนน้อย ในขณะที่เงินออมของคนจำนวนมากจะต้องสูญไปเลย
ประชาชนมากมายจะต้องย้ายถิ่นฐาน บ้างก็จะเป็นผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย จากความยากจนหรือการกดขี่จากผู้ปกครองประเทศ บ้างก็เป็นผู้เสี่ยงโชค แสวงหาโอกาสในช่วงที่ทั้งโลกอยู่ในอาการยุ่งเหยิง
เหนือสิ่งอื่นใด นี่คือช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง
สักวันหนึ่ง คนในยุคหน้าจะมองย้อนมา เหมือนกับที่เรามองเหตุการณ์ก่อนหน้าเราในอดีตเช่น สงครามโลกทั้งสองครั้งที่ผ่านมา หรือเมื่อครั้งเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ที่สร้างความสูญเสียให้ผู้คนยุคนั้นมาแล้ว
แต่กับบางคน โดยเฉพาะคนที่มองล่วงหน้าเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น นี่คือช่วงโอกาสที่จะเปลี่ยนฐานะได้แบบดรามาติกเลยแหละ ....ทั้ง ๆ ที่ช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลง พวกนี้จะถูกมองว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ..ที่เที่ยวร้องบอกว่าโลกกำลังจะแตก
แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะถึงแม้จะรู้ว่ามันต้องเกิดขึ้น แต่ก็บอกไม่ได้แน่นอนว่าวิกฤตจะเกิดเมื่อไหร่ ...แต่ที่จริงเราก็ได้เห็นมาก่อนถึงความเป็นไปได้มาตั้งยี่สิบปีแล้ว
เพียงแต่ว่า..มันมีการพยายามชลอความเร็วการเกิดวิกฤตเอาไว้โดยรัฐบาลและธนาคารกลางของหลายชาติ ...การเตือนของเราจึงเป็นการเตือนซ้ำ ๆ ซาก ๆ ว่าความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นมาก ณ วันที่มันล่มสลาย
ตั้งแต่ยี่สิบปีมาแล้ว มีวิกฤตย่อย ๆ เกิดขึ้นมา 1 หรือ 2 ครั้งทุก ๆ ปี ...และมันก็บ่อยขึ้น ๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ มันแทบจะเกิดขึ้นทุกวัน
ผู้ที่ติดตามข่าวในแนวทางนี้ จะเห็นว่าวิธีที่หลายรัฐบาลทำเหมือน ๆ กันคือ การใช้ธุรกิจธนาคารขนาดใหญ่เข้าเสาะหาความมั่งคั่งเข้ากระเป๋าตนเองให้มากที่สุด ด้วยวิธีการซึ่ง...ในที่สุดแล้วสภาพเศรษฐกิจและสังคมก็จะต้องพังลงจนได้
แล้วพวกเขาก็ทำสำเร็จอย่างงดงาม มานับหลายสิบปี พวกเขายกฐานะของตนขึ้นมาสูงมาก สูงมากจนราคาที่ต้องจ่ายคืน..มันมากจนพวกเขาไม่อยากจ่าย ขอยกยอดไปให้เป็นความรับผิดชอบของประชาชนระดับล่าง ๆ ก็แล้วกัน ..ซึ่งในที่สุดก็ต้องเจอการต่อต้านแน่ ๆ
แล้วจะแก้ปัญหานี้ได้ยังไง
ในอดีต พวกที่ก่อปัญหาลักษณะนี้แล้วหนีไปไหนไม่ได้ ก็มักจะสร้างเรื่องเบนความสนใจที่นอกจากจะไม่ให้ความผิดมาตกที่พวกตนได้แล้ว ...ยังสามารถสร้างกำไรเพิ่มได้อีกด้วย
ก็แบบที่นักเล่นกลทั่วไปรู้ดี เรื่องมหัศจรรย์น่ะไม่มีหรอก มีแต่ภาพลวงตา ซึ่งต้องมีการเบนความสนใจก่อน ถ้าต้องการสร้างสิ่งลวงตาใหญ่ ๆ ก็ต้องสร้างสิ่งเบนความสนใจใหญ่ตามไปด้วย
ถ้าจะสร้างเรื่องให้ใหญ่ขนาดเศรษฐกิจทั้งโลกมีอันต้องหยุดนิ่งลงไปเลย โดยที่นักเล่นกลยังสามารถหาเศษหาเลยได้อีก สิ่งที่จะมาเบนความสนใจก็ต้องใหญ่มหึมาไปด้วย
ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ก็ควรจะมีหลาย ๆ เรื่องผูกรวมเป็นแพ็คเกจ ...ยาวเป็นซีรี่ส์แบบ second wave ..หรือ third wave ได้ก็ยิ่งดี
เริ่มเมื่อต้น ๆ ปี 2020 ไวรัสระบาดก่อน แบบให้มันค่อย ๆ ระบาดไปทั่วโลก
ไวรัสตัวนี้วงการวิทยาศาสตร์คุ้นเคยดี (จะได้ไม่หาว่าโกหก) มันคือ coronavirus ที่กลายพันธ์ ซึ่งมีอยู่ในโลกมากว่าหกสิบปีแล้ว สามารถคาดเดาอาการได้เมื่อติดเชื้อ
อัตราการตายมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและผู้มีภูมิต้านทานต่ำ แต่ถ้าตายไม่มาก มันจะเบนความสนใจได้ไม่นานน่ะซี
ตัวเลขผู้เสียชีวิต จู่ ๆ ก็จึงเพิ่มอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ จนขนาดรัฐบาลสหรัฐมีการให้รางวัลนับพันดอลลาร์ต่อผู้เสียชีวิตที่ติดไวรัสแต่ละรายให้กับโรงพยาบาล
หลาย ๆ ประเทศมีการล็อคดาวน์ ...คนนับล้าน ๆ ต้องตกงาน ธุรกิจพังเสียหาย ...และในทุก ๆ กรณี อิสรภาพของผู้คนในประเทศก็ถูกริดรอน
ในขณะเดียวกัน มีการสร้างเหตุให้มีการชุมนุมเกิดขึ้นมากมายตามท้องถนน
และด้วยการช่วยกระพือข่าวของสื่อ การก่อความไม่สงบก็ลามไปถึง 40 ใน 50 รัฐของสหรัฐ ...และที่เหลือเชื่อ ตำรวจในหลาย ๆ รัฐถูกสั่งห้ามไม่ให้ใช้ความรุนแรงโดยอ้างว่าผู้ชุมนุมไม่ได้ทำผิดกฏหมาย
ผู้ก่อความไม่สงบก็ยิ่งสร้างความรุนแรงมากขึ้น เงินท่อน้ำเลี้ยงที่ตามรอยได้ ก็มาจากกลุ่มที่ต้องการสร้างภาพลวงตานี่เอง
ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จนผู้คนเริ่มหวาดผวาไม่กล้าดูข่าวอีก
เรากำลังเข้าสู่ยุควิกฤต ...จากจุดนี้ ความมั่งคั่งทั้งหลายกำลังจะถูกสูบจากกระเป๋าของคนทั้งโลก สิทธิและเสรีภาพของเราเป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว
สิ่งที่เรา ๆ กำลังพบเจอตอนนี้ ไม่ใช่ภาพลวงตา และก็ไม่ใช่เรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้นด้วย
สำหรับคนที่คิดว่า ผู้ปกครองประเทศจะต้องมาช่วยพวกเขาให้พ้นจากเรื่องร้าย ๆ เหล่านี้ ก็คงจะต้องอยู่กับความหวังต่อไป เพราะพวกเขานี่แหละที่สร้างความฉิบหายให้เรา
ความจริงคือ เรากำลังอยู่ในวิกฤตที่จะบดบังทุก ๆ วิกฤตที่โลกเคยรับรู้มาก่อน และผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้เลยว่า อะไรกำลังจะมา และจะเตรียมตัวกันยังไง
Subscribe to International Man

ที่มา: สายัณห์ รุจิรโมรา