ธรรมะเชิงประวัติศาสตร์ นิยามของวัฏจักร การสร้างใหม่แล้วทุบทิ้ง เป็นวงกลมไปเรื่อยๆ
ความลำบากจริงๆไม่มีหรอก
ความสุขสบายจริงๆก็ไม่มีหรอก
ก็มีเพียงแค่ความไม่เข้าใจโลกเท่านั้นเอง
ที่ทำให้ต้องลำบาก..ใจ..
วัฏ แปลว่า วงกลม วัฏสงสาร แปลว่า วงกลมที่น่าสงสาร
ผู้ที่ตกอยู่ในวัฏสงสาร แปลว่า ผู้ที่ตกอยู่ในวงกลมที่น่าสงสาร คือวงกลมของการเป็นทาส ความรู้เท่าทันแล้วรู้จักวางอุเบกขาคือนิ่งเฉย เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการออกจากวงกลมของการเป็นทาส
ความร่ำรวยที่แท้จริง ไม่ได้หมายถึง การมีเงินมาก เพราะถึงรวยอย่างไร คุณก็ไม่มีทางรวยกว่าคนที่มีอำนาจในการพิมพ์เงินได้ อย่างแน่นอน ออกจากความโง่งมงาย ออกจากความหลงว่าตนเองฉลาด กับของพวกนี้ได้แล้ว
สติปัญญาที่รู้เท่าทันอาการของโลกธรรมที่เกิดแก่ตนต่างหาก ที่จะสามารถสร้างความร่ำรวยที่แท้จริงให้คุณได้ นั้นคือ อริยทรัพย์ เป็นทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่จะทำให้คุณสุขสบายข้ามภพข้ามชาติได้ รู้อย่างนี้แล้วก็พึงตัดสินใจ ลด ละ เลิก ความทะเยอทะยานอยาก ความเสียเวลา ความเกินพอดี ในสิ่งที่ไม่ได้นำพาความร่ำรวยที่แท้จริงมาให้คุณได้แล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

2. สหรัฐ vs จีน: ใครพึ่งพาใคร?
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า สหรัฐมีบทบาทที่สำคัญที่สุดในการสร้างรัฐจีนใหม่ให้เข้มแข็งด้านเศรษฐกิจหลังเติ้ง เสี่ยวผิงเปิดประเทศจีนในปี 1978-1979 โดยวางแนวทางให้จีนเป็นผู้ผลิตและสหรัฐจะเป็นผู้ซื้อ สหรัฐจะลงทุนในจีน โดยบริษัทอเมริกันเอาเงินทุนพร้อมเทคโนโลยีการผลิต และระบบการบริหารจัดการมาสร้างฐานการผลิตในจีน เมื่อผลิตสินค้าเสร็จแล้ว จีนส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐ ทำให้บริษัทอเมริกันในจีนร่ำรวยมหาศาล ตลาดหุ้นขึ้นระเบิดเถิดเทิง เพราะว่าผลประกอบการของบริษัทอเมริกันมีกำไรดีมาก เนื่องจากแรงงานจีนถูกกว่าแรงงานสหรัฐไม่รู้กี่สิบเท่า บริษัทของยุโรปทนอยู่เฉยไม่ได้ต้องย้ายฐานผลิตมายังจีนเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขั้น มิเช่นนั้นจะแข่งสู้สินค้าอเมริกันที่ผลิตในจีนไม่ได้
ไปๆมาๆ เศรษฐกิจจีน(จีดีพีจีน2021: $16.6ล้านล้าน)กำลังพัฒนาไปถึงขั้นที่มีแนวโน้มขนาดเศรษฐกิจจีนจะแซงหน้าสหรัฐ (จีดีพีสหรัฐ 2021: $22.6ล้านล้าน) ในอีก10ปีข้างหน้า เพราะว่าจีนจะอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ5%-6%ต่อปี ในขณะที่สหรัฐจะโตช้ากว่าที่อัตรา2%-3%ต่อปี
เมื่อเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่กว่า มาร์เก็ตแคปของตลาดเงินตลาดทุนจะใหญ่กว่าเป็นเงาตามตัว บทบาทของเงินหยวนจะโดดเด่นขึ้นโดยปริยาย ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาดอลล่าร์อีกต่อไป และการที่จีนมีโครงการเส้นทางสายไหมที่รวมตลาด3ทวีปคือเอเชีย ยุโรปและแอฟิรกาเข้าด้วยกันก็จะทำให้จีนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตลาดสหรัฐในการส่งออกในอนาคตอีกต่อไป
พูดง่ายๆจีนเตรียมตัดหางลอยแพสหรัฐแล้วผ่านโครงการเส้นทางสายไหม สหรัฐจึงเต้นเหมือนเจ้าเข้าในเวลานี้
นอกจากจะเป็นผู้นำด้านการผลิต (manufacturing powerhouse) หรือคอนโทรลระบบโลจิสติกซ์ &ซับไพลเชนของโลกแล้ว สิ่งที่ทำให้สหรัฐค่อนข้างจะเกรงกลัวจีนคือ จีนจะมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดการทำให้เศรษฐกิจมีความทันสมัยในยุคดิจิตัลต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง 5จี สมาร์ทโฟน ระบบชำระเงิน ระบบการเงิน ดิจิตัลหยวน รถยนต์ไฟฟ้า ไบโอเทค เซมิคอนดั๊กเตอร์ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ของจีนก้าวหน้าไม่แพ้ประเทศใดในโลก อันเห็นได้จากสามารถส่งยานอวกาศไปยังด้านมืดของดวงจันทร์ได้ ส่งนักบินอวกาศไปประจำสถานีอวกาศนอกโลก และส่งยานอวกาศไปดาวอังคารเป็นผลสำเร็จทำให้โลกต้องตะลึงจากภาพถ่ายบนดาวอังคารที่ทะยอยส่งกลับมายังโลก
ความเชื่อที่ว่าจีนยังล้าหลังสหรัฐด้านเทคโนโลยี หรือเก่งแต่ก็อปปี๊ คิดเองไม่เป็นน่าจะเป็นอคติที่มีมาในอดีต เพราะว่าอังกฤษ เยอรมันนี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศสสู้จีนไม่ได้ในเทคโนโลยีอวกาศ ที่สหรัฐและรัสเซียเป็นผู้นำตลอดมา
ถ้าจะว่าไปแล้ว จีนเปรียบเทียบเหมือนนักเรียนที่ขยันลอกการบ้านเพื่อน แม้จะมีปัญญาดี แต่ด้อยโอกาสหรือสภาพแวดล้อมไม่ดี จึงเรียนหนังสือตามเพื่อนไม่ทัน แต่พอลอกการบ้านเพื่อนจนถึงระดับหนึ่ง ที่ทำความเข้าใจด้วยตัวเองได้แล้ว จีนสามารถทำการบ้านเองโดยไม่ลอกเพื่อน และสามารถค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมได้จนเรียนเก่งกว่าเพื่อนที่เคยให้ลอกการบ้าน
สหรัฐสร้างจีนให้เจริญก้าวหน้าในยุคที่ก่อสงครามเย็นกับรัสเซีย แต่ในขณะนี้สหรัฐกลับหันมาก่อสงครามเย็นกับจีน เพื่อรักษาสถานภาพการเป็นมหาอำนาจโลกแต่ผู้เดียว (Unipolar World) ความจริงสงครามเย็นระหว่างสหรัฐกับรัสเซียดำเนินมาเรื่อยๆหลังจากที่ปูตินสามารถปลดแอกรัสเซียจากอิทธิพลของวอลล์สตรีทและลอนดอนได้ ในสายตาของสหรัฐค่อนข้างจะดูถูกรัสเซีย ไม่ได้ให้ค่ารัสเซียมากกว่าจีน โจ ไบเดนพูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า รัสเซียไม่มีอะไรเลยนอกจากอาวุธนิวเคลียร์ และน้ำมัน
ในทางตรงกันข้ามจีนมีทุกอย่างที่สหรัฐมี ที่สำคัญจีนมีประชากร1,400ล้านคนที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศักยภาพของความเป็นประเทศ เพราะว่าจีนสามารถระดมคน (mobilization of human resources)ให้ทำงานใหญ่ได้ทุกเรื่องให้เสร็จอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างระบบราง การสร้างนักวิทยาศาสตร์ นักคอมพิวเตอร์ วิศวะกร นักประดิษฐ์ นักวิจัย นักการผลิต นักธุรกิจฯลฯ เพราะว่ามีตัวเลือกเก่งๆมากมาย นอกจากนี้จีนยังมีแสนยานุภาพทางทหาร และมีอาวุธนิวเคลียร์พร้อมที่จะรับมือกับสหรัฐเกือบทุกด้าน
ในเกมมหาอำนาจโลก ประเด็นที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ คือใครจะเป็นผู้ที่เขียนกฎเกณฑ์ของระเบียบโลก (New World Order)ในวาระต่อไป เพราะว่าระบบโลกที่สร้างขึ้นมาต้องแต่หลังสงครามโลกคร้ังที่2ผ่านสถาบันหลักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ นาโต้ รวมท้ังดอลล่าร์ที่รับบทบาทเงินสกุลหลักของโลก ระบบการค้าโลก ระบบการเงินโลก ระบบธนาคาร ระบบข้อมูลธนาคาร (SWIFT) ระบบชำระเงิน กฎเกณฑ์ทางเทคโนโลยี องค์กรสถาบันระหว่างประเทศต่างๆกำลังจะหมดอายุขัย ทุกระบบที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อเวลาผ่านไปจะเข้าสู่จุดเสื่อม หรือล่มสลายในที่สุดถ้าหากไม่มีการปรับปรุง แก้ไขพัฒนาหรือสร้างใหม่ ซึ่งวงจรนี้จะเกิดขึ้นทุกๆ70ปีอยู่แล้ว
การสร้างระเบียบโลกใหม่ผ่านGlobal Resetผู้ที่ทำหน้าที่ทางสมองในการวางแนวทางคือWorld Economic Forum ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยวาระGlobal Resetจะครอบคลุมระเบียบโลกใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การธนาคาร บิ๊กเทค เศรษฐกิจ ดิจิตัล โลกร้อน กรีนเทคโนโลยีที่จะมาแทนระบบที่วางหลังสงครามโลกคร้ังที่ 2 โดยที่สหรัฐและอังกฤษ หรือพวกอิลิทในยุโรปจะยังคงเป็นผู้นำโลกอีกต่อไป เรียกว่าขอผูกขาดอำนาจโลกต่อไปเรื่อยๆว่างั้นเถอะ โควิดที่กำลังระบาดทั่วโลกในเวลานี้เป็นตัวเร่งปฎิกิริยาของGlobal Resetให้ดำเนินไปตามตารางเวลาที่กำหนดนั่นเอง
หัวใจของGlobal Resetจะอยู่ที่เงินสกุลโลกใหม่ที่จะออกมาแทนดอลล่าร์ เมื่อสร้างดอลล่าร์ได้ก็ทำลายดอลล่าร์ได้เหมือนกัน พร้อมกับสกัดดิจิตัลหยวนไปควบคู่กัน
สิ่งที่สหรัฐและพวกWEFกลัวที่สุดคือ เมื่อจีนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกจีนจะไม่ยอมเดินตามกฎเกณฑ์ที่สหรัฐร่างขึ้นมา เพราะจีนและรัสเซียไม่เห็นด้วยในการผูกขาดอำนาจโลกแต่ผู้เดียวของกลุ่มแองโกลอเมริกัน แต่ต้องการให้โลกมีทางเลือกของการมีมหาอำนาจหลายขั้ว (Multipolar World)
อย่างที่ได้บอกเอาไว้ จีนไม่จำเป็นต้องลอกการบ้าน หรือทำตามสหรัฐเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวอีกต่อไป มันหมดยุคไปแล้ว ไม่เหมือนตอนรับจ้างเป็นคนงานที่ได้แรงงานถูกๆเพื่อจ้างให้ผลิตตอนนี้จีนรวยพอที่จะเป็นเถ้าแก่เองแล้ว จีนมีหน้าที่ปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของคนจีน ไม่ได้มีหน้าที่ต้องดูแลผลประโยชน์ขอ งสหรัฐตลอดไป
ในยุคสงครามเย็นคราวที่แล้ว สหรัฐหันมาสร้างจีนเพื่อยันรัสเซียในศึก3ก๊ก แต่ในสงครามเย็นยุคนี้ สหรัฐพยายามแซะรัสเซียกับจีนไม่ให้จับมือกันได้ เพื่อเผด็จศึกจีนโดยหวังทำลายจีนให้ล่มสลายเหมือนจักรวรรดิโซเวียตที่ถูกทำลายในปี 1991โดยไม่ต้องลั่นไกออกอาวุธ
ไบเดนถึงกับประกาศในเวทีG7ที่อังกฤษเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า กฎเกณฑ์ทางเทคโนโลยีและการค้าต่อไป สหรัฐต้องเป็นผู้วางระบบเท่านั้น ไม่ใช่จีน ด้วยเหตุนี้สงครามเย็นที่สหรัฐกำลังก่อกับจีนจึงมีเป้าหมายหลักคือสกัดดาวรุ่งจีนไม่ให้เป็นผู้วางกฎเกณฑ์ทางด้านการเงิน การค้าโลก รวมท้ังเรื่องของทรัพย์สินดิจิตัล เพราะว่าใครคุมเงิน (capital) ผู้นั้นจะครองโลกในวาระต่อไป
แล้วทำไมคิสซิงเจอร์ถึงต้องสร้างจีน แล้วคิดว่าจะคุมจีนได้ แต่ตอนนี้คุมจีนไม่ได้? 1/8/2021
ที่มา: https://www.facebook.com/ThanongFanclub/posts/368265614668096