ธรรมะเชิงประวัติศาสตร์ นิยามของวัฏจักร การสร้างใหม่แล้วทุบทิ้ง เป็นวงกลมไปเรื่อยๆ
ความลำบากจริงๆไม่มีหรอก
ความสุขสบายจริงๆก็ไม่มีหรอก
ก็มีเพียงแค่ความไม่เข้าใจโลกเท่านั้นเอง
ที่ทำให้ต้องลำบาก..ใจ..
วัฏ แปลว่า วงกลม วัฏสงสาร แปลว่า วงกลมที่น่าสงสาร
ผู้ที่ตกอยู่ในวัฏสงสาร แปลว่า ผู้ที่ตกอยู่ในวงกลมที่น่าสงสาร คือวงกลมของการเป็นทาส ความรู้เท่าทันแล้วรู้จักวางอุเบกขาคือนิ่งเฉย เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการออกจากวงกลมของการเป็นทาส
ความร่ำรวยที่แท้จริง ไม่ได้หมายถึง การมีเงินมาก เพราะถึงรวยอย่างไร คุณก็ไม่มีทางรวยกว่าคนที่มีอำนาจในการพิมพ์เงินได้ อย่างแน่นอน ออกจากความโง่งมงาย ออกจากความหลงว่าตนเองฉลาด กับของพวกนี้ได้แล้ว
สติปัญญาที่รู้เท่าทันอาการของโลกธรรมที่เกิดแก่ตนต่างหาก ที่จะสามารถสร้างความร่ำรวยที่แท้จริงให้คุณได้ นั้นคือ อริยทรัพย์ เป็นทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่จะทำให้คุณสุขสบายข้ามภพข้ามชาติได้ รู้อย่างนี้แล้วก็พึงตัดสินใจ ลด ละ เลิก ความทะเยอทะยานอยาก ความเสียเวลา ความเกินพอดี ในสิ่งที่ไม่ได้นำพาความร่ำรวยที่แท้จริงมาให้คุณได้แล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

15.สหรัฐ vs จีน: ใครพึ่งพาใคร?
ดอลล่าร์หมดประโยชน์แล้วในฐานะเงินสกุลหลักของโลกที่จะให้ประเทศต่างๆถือเป็นรีเสร์ฟ หรือเงินทุนสำรอง เพราะว่าสหรัฐใช้ดอลล่าร์ที่ไม่มีทรัพย์สินหนุนหลังเป็นอาวุธในการทำลายประเทศอื่นผ่านการแซงชั่น และสหรัฐไม่มีวินัยทางการเงินการคลังสร้างหนี้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณดอลล่าร์เข้าไปในระบบในปริมาณที่มหาศาล ทำให้คุณค่า หรือความคุ้มในการใช้ดอลล่าร์เป็นรีเสิร์ฟหายไป
อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริง หรือในทางปฏิบัติ ดอลล่าร์จะยังคงเป็นเงินสกุลที่ได้รับการยอมรับ หรือนิยมในการใช้จ่ายมากที่สุดในโลก การทำธุรกรรมการเงินด้วยดอลล่าร์ยังคงมีปริมาณที่มากที่สุดในโลก ตลาดทุนหรือตลาดการเงินของสหรัฐยังคงเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก ทำให้นักลงทุนทั่วโลก รวมท้ังกองทุนต่างๆนิยมที่จะเข้าไปลงทุนในสหรัฐ
ที่ผ่านมาสหรัฐมีการแซงช่ันรัสเซีย เพราะว่าไปผนวกไครเมียร์ โดยสั่งห้ามไม่ให้กองทุน หรือสถาบันการเงินใดๆเข้าไปเกี่ยวข้องกับการระดมทุนในรูปดอลล่าร์ของธนาคารหรือบริษัทรัสเซีย https://edition.cnn.com/2021/04/15/business/joe-biden-banks-russian-debt/index.html
แถมมีการขู่ว่าจะตัดขาดรัสเซียออกจากระบบSWIFT ซึ่งจะทำให้รัสเซียโอนเงิน หรือทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศไม่ได้ รัสเซียโต้กลับว่าเมื่อใดที่สหรัฐตัดรัสเซียออกจากระบบSWIFT เท่ากับว่าเป็นการประกาศสงครามกับรัสเซีย และรัสเซียคงต้องประกาศสงครามเพื่อตอบโต้ https://www.washingtonpost.com/news/monkey-cage/wp/2015/01/28/russia-is-hinting-at-a-new-cold-war-over-swift-so-whats-swift/
อิหร่านก็ถูกสหรัฐบอยคอตเหมือนกันไม่ให้อิหร่านขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์ เพราะว่าเวลาใช้ดอลล่าร์ในท้ายที่สุดต้องผ่านระบบเคลียริ่งของแบงก์อเมริกัน ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ หรือกระทรวงการคลังสหรัฐควบคุมอยู่ ใครละเมิดจะถือว่าทำผิดกฎหมายสหรัฐ จะถูกสหรัฐแซงชั่นต่ออีกที ทำให้ไม่มีประเทศใดๆใครกล้าตอแย หรือขัดสหรัฐ
https://www.reuters.com/article/us-usa-iran-oil-idUSKCN1VT0H2
จีนก็ถูกสหรัฐขู่ว่าจะเบี้ยวหนี้$1.1ล้านล้านที่จีนเป็นเจ้าหนี้สหรัฐในรูปการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เพราะมีนักการเมือง นักเคลื่อนไหวบางคนในสหรัฐกล่าวหาว่าจีนเป็นต้นตอของไวรัสอู่ฮั่น ทำให้เกิดการระบาดมายังอเมริกา และสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ ชีวิตและทรัพย์สินของคนอเมริกัน จีนต้องชดใช้ด้วยการยกหนี้$1.1ล้านล้าน
https://www.nbcnews.com/business/economy/should-u-s-refuse-pay-back-its-1-trillion-debt-n1227351
เล่นง่ายๆอย่างนี้เลยนะ
การใช้ดอลล่าร์เป็นอาวุธของสหรัฐทำให้จีนมีความเสี่ยงอย่างมากในการอยู่ในกับดักดอลล่าร์ เพราะว่าวันดีคืนดีอาจจะโดนเบี้ยวหนี้ก็ได้ เช่นเรื่องข้อกล่าวหาการระบาดของไวรัส แล้วจะเบี้ยวหนี้$1.1ล้านล้านและถ้าหากกองทัพเรือสหรัฐแล่นเข้าไปในหมู่เกาะทะเลจีนใต้เพื่อยั่วยุจีน ทำให้เกิดการปะทะกันกับกองทัพเรือจีน และความเสียหายตามมาสหรัฐอาจจะหาเรื่องเบี้ยวหนี้จีนได้ หรือยึดทรัพย์สินจีนที่ลงทุนในสหรัฐ เรื่องนี้ทำให้จีน และรัสเซียต้องหันมาพัฒนาระบบข้อมูลแบงก์ที่คล้ายกับการทำงานของSWIFTของตัวเอง เพื่อรองรับความเสี่ยงในกรณีที่ถูกแซงชั่น
การที่สหรัฐใช้ดอลล่าร์เป็นอาวุธแซงชั่น สร้างดีมานด์เทียมให้ดอลล่าร์ เพิ่มปริมาณดอลล่าร์ในระบบทำให้เกิดเงินเฟ้อ เพราะว่าต้องก่อหนี้เพื่อรักษาระบบจักรวรรดิที่มีคอสท์สูง ใช้ดอลล่าร์ในการก่อสงครามการเงินทำให้คุณค่า หรือประโยชน์ใช้สอยของดอลล่าร์ในฐานะเงินสกุลหลักของโลกค่อยๆเสื่อมลงไป
จีนและประเทศต่างๆที่เน้นการส่งออกรวมท้ังประเทศไทยที่ติดกับดักดอลล่าร์จะต้องคอยทำให้ค่าเงินของตัวเองอ่อนเข้าไว้จะได้ขายของได้ดอลล่าร์เป็นรายได้เข้ามา ในขณะที่ดอลล่าร์เสื่อมค่าลงไปจากการพิมพ์เงินเพิ่มปริมาณ ทำให้ภายในประเทศที่เน้นการกอบโกยดอลล่าร์ต้องเผชิญกับเงินเฟ้อ อำนาจซื้อของประชาชนลดลง อันเห็นได้จากคนไทยต้องบริโภคข้าวของแพงขึ้นทุกปีๆ จะซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ จ่ายค่าเทอม ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าอาหารแพงขึ้นจนคนจนอยู่ไม่ได้
จีนไม่ต้องการอยู่ในกับดักดอลล่าร์รีเสิร์ฟนี้ จึงหาทางดัมพ์ดอลล่าร์ที่ถือในรูปของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง แม้ว่ามันจะเป็นหนี้ก็ตาม การดัมพ์ดอลล่าร์คือการแปลงทรัพย์สินดอลล่าร์เป็นทรัพย์สินในรูปแบบอื่น ซึ่งจีนก็ทำมาแล้วคือการซื้อทองคำ ซื้อบ่อน้ำมัน หรือลงทุนในสัมปทานในประเทศต่างๆเพื่อขยายการลงทุนในจีนในต่างประเทศ
แต่ดอลล่าร์รีเสริฟส่วนมากของจีนจะดัมพ์ลงไปในโครงการเส้นทางสายไหม (One Belt One Road) ผ่านธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของเอเชีย หรือAsian Infrastructure Investment Bank (AIIB) สี จิ้นผิงเป็นผู้ที่มองกาลไกล และเป็นผู้ริเริ่มในปี2013ที่จะรื้อฟื้นเส้นทางสายไหมโบราณให้เป็นโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเกี่ยวโยงกับ70ประเทศและองค์กรครอบคุมทวีปเอเชีย ยุโรปและแอฟริการ จีนจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในAIIB ซึ่งจีนจะใช้เป็นช่องทางในการดัมพ์ดอลล่าร์ หรือการแปลงทรัพย์สินดอลล่าร์ที่เป็นหนี้ของรัฐบาลสหรัฐให้เป็นทรัพย์สินที่อยู่ในรูปของโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นถนน ระบบราง โรงงานผลิตไฟฟ้า โครงการโทรคมนาคม ระบบน้ำ สนามบิน ท่าเรือ
ทรัพย์สินที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ ที่มาจากการแปลงทรัพย์สินดอลล่าร์ นับวันมีแต่จะมีมูลค่าเพ่ิมสูงขึ้น เพราะว่าเป็นทรัพย์สินที่จับต้องได้ และมีประโยชน์ในการใช้งาน โดยจีนและแชร์กับประเทศ หรือองค์กรที่เข้าร่วมโครงการในลักษณะวิน-วินด้วยกันทุกฝ่าย โครงสร้างพื้นฐานของโครงการOne Belt One Roadจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนประมาณ$3ล้านล้านในระยะข้างหน้า เม็ดเงินลงทุนนี้จะมาจากจีนเป็นหลัก ด้วยการในการให้เปล่าบ้าง ให้เป็นเครดิตบ้าง ให้กู้บ้าง แล้วแต่สถานการณ์ เมื่อโครงสร้างพื้นฐานได้รับการพัฒนาแล้ว ความเจริญจะตามมาทำให้ประเทศที่เคยอยู่ในภาวะสงครามหรือความลำบากมานาน ไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลาง เอเชียกลาง เอเชียใต้ แอฟริกาจะได้ประโยชน์ จีนจะได้ประโยชน์ทีหลังหลังฝ่านการค้าขายที่เพิ่มขึ้น ผ่านการลงทุนของบริษัทจีน แรงงานจีนสามารถไปทำงานที่ต่างประเทศในโครงการสายไหมใหม่ อิทธิพลของจีนท้ังการเมือง เศรษฐกิจและการเงินในโลกจะเพิ่มขึ้นโดยปริยาย ทำให้จีนกลายเป็นศูนย์กลางของโลกในศตวรรษที่ 21
จึงไม่น่าแปลกใจที่สหรัฐเต้นเป็นงิ้ว หลังจากที่จีนเปิดตัวOne Belt One Road เพราะว่าAIIBจะเป็นคู่แข่งกับIMF กับธนาคารโลก ที่เป็นสถาบันหลักที่ค้ำจุนดอลล่าร์ในระบบการเงินโลกในระดับแมคโคร เพราะว่าAIIBจะเป็นเครื่องจักรที่สำคัญในการโปรโหมทการใช้หยวนแทนดอลล่าร์ในการลงทุนระหว่างประเทศ หรือการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ หยวนจะค่อยๆมาแทนบทบาทของดอลล่าร์ในระบบการเงินโลกใหม่ผ่านAIIBอีกทาง
สหรัฐอ้างว่าโครงการเส้นทางสายไหมใหม่นี้จะทำให้ประเทศยากจนติดหนี้จีน หรือโครงการนี้จะไม่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ญี่ปุ่่นก็ช็อคเหมือนกัน เพราะว่าOne Belt One Roadจะทำให้จีนเป็นมหาอำนาจในเอเชีย ไม่ใช่ญี่ปุ่น แม้ว่าที่ผ่านมาญี่ปุ่นจะคอยรับคำสั่งของสหรัฐมาตลอดก็ตาม อินเดียก็ไม่สบอารมกับOne Belt One Road เพราะว่าจีนไปให้เงินสนับสนุนปากีสถานที่อินเดียมองว่าเป็นศัตรูคู่กัด แย่งดินแดนแคชเมียร์กันอยู่
ล่าสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โจ ไบเดนทนไม่ไหวต้องประกาศโครงการฺBuild Back Better World ที่เวทีประชุมของกลุ่มG-7 ที่อังกฤษ โดยจะเป็นโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เลียนแบบOne Belt One Road และจะให้เอกชนเข้าร่วมเป็นหลัก แต่รายละเอียดไม่มี จะทำให้เป็นรูปร่างอย่างไรก็ไม่มีความชัดเจน
ถึงตอนนี้ภาพคงจะชัดเจนมายิ่งขึ้่นแล้วว่า จีนกำลังตัดหางปล่อยวัดสหรัฐ ในขณะที่สหรัฐพยายามตัดแข้งตัดขาจีน หรือเกาะจีนด้วยซ้ำ เพราะว่าในเพลานี้ที่ไม่เหมือนในอดีต สหรัฐต้องการจีนมากกว่าจีนต้องการสหรัฐ 6/8/2021
ที่มา: https://www.facebook.com/ThanongFanclub/posts/371404977687493