ธรรมะเชิงประวัติศาสตร์ นิยามของวัฏจักร การสร้างใหม่แล้วทุบทิ้ง เป็นวงกลมไปเรื่อยๆ
ความลำบากจริงๆไม่มีหรอก
ความสุขสบายจริงๆก็ไม่มีหรอก
ก็มีเพียงแค่ความไม่เข้าใจโลกเท่านั้นเอง
ที่ทำให้ต้องลำบาก..ใจ..
วัฏ แปลว่า วงกลม วัฏสงสาร แปลว่า วงกลมที่น่าสงสาร
ผู้ที่ตกอยู่ในวัฏสงสาร แปลว่า ผู้ที่ตกอยู่ในวงกลมที่น่าสงสาร คือวงกลมของการเป็นทาส ความรู้เท่าทันแล้วรู้จักวางอุเบกขาคือนิ่งเฉย เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการออกจากวงกลมของการเป็นทาส
ความร่ำรวยที่แท้จริง ไม่ได้หมายถึง การมีเงินมาก เพราะถึงรวยอย่างไร คุณก็ไม่มีทางรวยกว่าคนที่มีอำนาจในการพิมพ์เงินได้ อย่างแน่นอน ออกจากความโง่งมงาย ออกจากความหลงว่าตนเองฉลาด กับของพวกนี้ได้แล้ว
สติปัญญาที่รู้เท่าทันอาการของโลกธรรมที่เกิดแก่ตนต่างหาก ที่จะสามารถสร้างความร่ำรวยที่แท้จริงให้คุณได้ นั้นคือ อริยทรัพย์ เป็นทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่จะทำให้คุณสุขสบายข้ามภพข้ามชาติได้ รู้อย่างนี้แล้วก็พึงตัดสินใจ ลด ละ เลิก ความทะเยอทะยานอยาก ความเสียเวลา ความเกินพอดี ในสิ่งที่ไม่ได้นำพาความร่ำรวยที่แท้จริงมาให้คุณได้แล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

29. สหรัฐ vs จีน: ใครพึ่งพาใคร
ในบทนี้ เรามาดูท่าทีของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีจุดยืนต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนในการช่วงชิงการเป็นมหาอำนาจในศตวรรษที่ 21อย่างไร ในขณะที่จีนดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเป็นมหาอำนาจ แต่สหรัฐยังคงเน้นนโยบายการทหารที่สั่งสม หรือทำสงครามมาเรื่อยๆตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2ไม่ว่าจะเป็นสงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามยูโกสลาเวีย สงครามในตะวันออกกลาง สงครามในแอฟริกาทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยอีกนับไม่ถ้วน
ดูเหมือนว่า สหรัฐจะให้ความสำคัญในตะวันออกกลางน้อยลง แต่มาให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโดแปซิฟิคแทน โดยได้จัดตั้งกลุ่ม4เกลอ คือสหรัฐ อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลียแล้วเพื่อสร้างความร่วมมือทางความมั่นคงและทางทหารเพื่อที่จะปิดล้อมจีน หรือเพื่อต่อรองกับจีนในวาระการรีเซ็ตระเบียบโลก (Global Reset) ท่ามกลางไวรัสที่ปลิวว่อนรอบโลก ที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการรีเซ็ต
ส่วนที่ยุโรป นาโต้ก็ยังคงเดินหน้าปิดล้อมรัสเซีย เหมือนกับว่าสหรัฐต้องการเปิดศึก2ด้าน ซึ่งไม่น่าที่จะเป็นไปได้
ส่วนพื้นที่เอเชียเหนือ สหรัฐมีพันธมิตรหลักคือเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เพราะมีฐานทัพสหรัฐอยู่ในทั้ง2ประเทศ และสหรัฐกำลังเข้ามาถือหางกับไต้หวันเพื่อยุยงให้ปลดแอกจากจีน หรือยั่วยุให้จีนใช้กำลังเข้าไปบุกยึดไต้หวันเพื่อที่จะจุดปะทุสงคราม เกาหลีใต้อยู่ในฐานะที่ลำบากใจมาก เพราะว่าไม่ต้องการรบกับเกาหลีเหนือเพราะว่าเป็นพี่น้องร่วมชาติเผ่าพันธุ์กัน ในขณะเดียวกันสู้รบกับจีนมีแต่จะหายนะ แค่จีนจามทีเดียวก็หายไปทั้งประเทศ
ส่วนญีปุ่่นเองมองจีนเป็นศัตรูคู่แข่ง กลัวว่าจีนจะเอาคืนเนื่องจากในอดีตญี่ปุ่นเคยรุกรานกดขี่จีนมาก่อน ญีปุ่่นยอมอยู่ใต้ร่มเงาของสหรัฐมาตลอดตั้งแต่หลังสงครามโลก โดยไม่มีทางดิ้นหลุดออกไปได้
ล่าสุดญี่ปุ่นออกมาหนุนไต้หวันอย่างเปิดเผย โดยประกาศว่าจะช่วยไต้หวันถ้าหากว่าถูกจีนรุกราน โดยรองนายกรัฐมนตรีญีปุ่่นนายทาโร่ อาโซะได้ออกมาบอกว่า ญี่ปุ่นต้องยืนมือเข้าช่วยไต้หวัน ถ้าไต้หวันถูกจีนรุกราน เพราะว่าถ้าไต้หวันตกเป็นของจีน หมู่เกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นจะเป็นเป้าต่อไปของจีน
https://www.nbcnews.com/news/world/japan-must-defend-taiwan-if-china-invades-deputy-prime-minister-n1273196
กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างรุนแรงให้เลือกข้างระหว่างความขัดแย้งของวอชิงตันและปักกิ่งในพื้นที่อินโดแปซิฟิค โดยจะวางตัวเป็นกลางยากลำบากขึ้น หรือแทบที่จะเป็นไปไม่ได้
สหรัฐใช้ฟิลิปปินส์เป็นด่านหน้า หรือทัพหน้าในการประลองเชิงกับจีน จากการที่ฟิลิปปินส์มีความขัดแย้งกับจีนในสิทธิ์การครอบครองหมู่เกาะในทะเลจีนใต้
ประธานาธิบดี โรดรีโก้ ดูเตอร์เต้ของฟิลิปปินส์เต้นแร้งเต้นกาเล่นละครมาเป็นเวลาหลายปี เพื่อหลบหลีกแรงกดดันจากสหรัฐให้ฟิลิปิินส์มีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์กับจีนโดยตรง ดูเตอร์เต้พยายามสร้างสัมพันธ์กับรัสเซียและจีนเพื่อถ่วงดุลสหรัฐ แต่ไม่เป็นผลเพราะว่าทหารฟิลิปปินส์ได้ประโยชน์จากเงินช่วยเหลือของเพนตากอน ฟิลิปปินส์เคยเป็นเมืองขึ้นของสหรัฐ การที่จะสลัดอิทธิพลของสหรัฐทางต่างประเทศ หรือทางทหารเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะว่ากลุ่มผลประโยชน์ของฟิลิปปินส์ได้ประโยชน์จากสหรัฐมาก
แต่นายดูเตอร์เต้ก็พูดจาแบบไม่เกรงใจใคร เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เขาพูดจากแบบเหน็บแนมว่า ถ้าวอชิงตันต้องการให้ฟิลิปปินส์สู้รบกับจีน เมื่อนั้นกองทัพสหรัฐฯก็ควรออกหน้าและเปิดฉากยิงเป็นคนแรก พร้อมกล่าวหาอเมริกากำลังใช้พันธมิตรทั้งหลายเป็นเหยื่อล่อปักกิ่ง
"อเมริกาพยายามผลักดันเราอยู่ตลอด กระตุ้นเรา เอาผมเป็นเหยื่อล่อ คุณเห็นคนฟิลิปปินส์เป็นอะไร เป็นแค่ไส้เดือนงั้นหรือ?" ดูเตอร์เตกล่าวระหว่างปราศรัยที่จังหวัดเลย์เต เมื่อไม่นานมานี้ "ตอนนี้ ผมขอบอกว่า ขนเครื่องบินของพวกคุณ เรือรบของพวกคุณมาทะเลจีนใต้เลย เปิดฉากยิงเป็นคนแรก และเราจะอยู่ที่นี่ ข้างหลังคุณ เอาเลย สู้รบกัน" เขากล่าว "คุณต้องการปัญหานักใช่ไหม? โอเค งั้นก็เอาเลย"
ประธานาธิบดีรายนี้บอกต่อว่าสหรัฐฯรู้ดีเกี่ยวกับกรณีที่จีนกำลังสร้างเกาะเทียมต่างๆ และกองทัพเรือสหรัฐฯเองก็มีกองเรือที่ 7 ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น "ทำไมพวกเขาไม่ส่งกองเรือไปยังสแปรตลีย์และบอกว่าเฮ้ พวกคุณ พวกคุณไม่ควรสร้างเกาะเทียมในทะเลหลวง ซึ่งถูกห้ามภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และความจริงก็คือคุณกำลังก่อสร้างภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเพื่อนของเรา ฟิลิปปินส์?" ดูเตอร์เตตั้งคำถาม "สหรัฐฯปล่อยให้พวกเขาสร้าง ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ที่นั่น ทั้งปืนและขีปนาวุธ"
ดูเตอร์เต้ย้ำอีกว่า "เราไม่อาจเป็นฝ่ายชนะในการทำสงครามกับจีน" ประธานาธิบดีรายนี้ระบุ "ผมไม่อาจสั่งทหารของผมไปยืน
https://mgronline.com/around/detail/9620000065526
ส่วนนายหลี เซียนหลุง ผู้นำของสิงคโปร์ได้ออกมาเตือนท่าทีที่สหรัฐมีต่อจีน โดยย้ำว่า ไม่มีใครชนะใครได้
ในการประชุม Aspen Security Forumเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายหลีกล่าวว่า ท่าทีที่แข็งกร้าวของสหรัฐที่ท้าทายจีนอาจเป็นอันตรายมาก และเตือนให้ทั้งสองประเทศลดความตึงเครียดระหว่างกันเพราะไม่มีใครสามารถเอาชนะใครได้
ลีเผยว่า สหรัฐเปลี่ยนท่าทีจากการแข่งขันกับจีนที่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายมาสู่มุมมองที่ว่าสหรัฐจะต้องชนะไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
ลีเผยต่อว่า “วันนี้มีฉันทามติของสองพรรคการเมือง (สหรัฐ) ในเรื่องหนึ่งนั่นคือ ความสัมพันธ์กับจีน แต่ท่าทีของพวกเขาคือ ใช้แนวทางแข็งกร้าว และผมไม่แน่ใจเลยว่านี่เป็นฉันทามติที่ถูกต้อง ผมไม่รู้ว่าสหรัฐตระหนักหรือเปล่าว่าจะต้องเจอกับปรปักษ์ที่น่าเกรงขามหากพวกเขาตัดสินใจว่าจีนเป็นศัตรู”
“ในสถานการณ์นี้ ผมขอฝากไปถึงทั้งสองฝ่ายว่าให้หยุดแล้วคิดอย่างระมัดระวังก่อนที่จะเดินหน้าต่อ มันอันตรายมาก” ลีกล่าว “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่สหรัฐและจีนต้องพยายามมีปฏิสัมพันธ์กันไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งซึ่งจะเป็นหายนะกับทั้งสองฝ่ายและกับโลก”
https://www.posttoday.com/world/659813
อาเชี่ยนอยู่ในฐานะที่ลำบากใจมาตลอดให้เลือกข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ในขณะที่สหรัฐมีความสัมพันธ์กับอาเซี่ยนมานานในด้านความมั่นคง แต่จีนได้กลายเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ความมั่งคั่งของอาเซี่ยนต่อไปจะผูกกับการเจริญเติบโต และเทคโนโลยีของจีนที่มีดินแดนที่ถือว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ในขณะที่สหรัฐอยู่ทวีปอเมริกาเหนือและมีนโยบายต่ออาเซียนที่ไม่แน่นอน
อาจารย์Khong Yuen Foong แห่งสำนัก Lee Kuan Yew School of Public Policyได้ออกมาบอกว่า ประโยคที่ผู้นำอาเชี่ยนชอบพูดกันว่า "อย่าได้บีบบังคับเราให้เลือกข้าง"ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนดูเหมือนว่าจะใช้ไม่ได้ต่อไป เพราะว่าความตึงเครียดระหว่าง2มหาอำนาจมีสูงขึ้นเรื่อยๆ
อาจารย์Khongให้ความเห็นว่า กัมพูชาและลาวมีการดำเนินนโยบายที่ใกล้ชิดกับจีน เพราะฉะนั้นน่าที่จะเป็นพันธมิตรกับจีนเป็นแม่นมั่น ส่วนเวียดนามและสิงคโปร์มีความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์กับสหรัฐอย่างชัดเจน ส่วนไทย ฟิลิปปินส์ และมาเลย์เซียได้ย้ายจุดยืนมาอยู่ในวงจรของอิทธิลของจีนมาได้พักใหญ่แล้ว คงเหลือแต่อินโดเนเซียเท่านั้นที่ยังไม่วางท่าทีที่ชัดเจนในความขัดแย้งของมหาอำนาจ อาจารย์Khongลืมประเมินท่าทีของพม่าว่าจะเอาอย่างไร
https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3128986/us-china-rivalry-pressure-asean-countries-choose-sides
สิ่งที่อาจารย์Khong วิเคราะห์ไม่น่าจะถูกต้องท้ังหมด จริงอยู่ที่ลาวและกัมพูชาจะเลือกที่จะอยู่ฝ่ายจีนและพม่าจะอยู่ฝ่ายจีนแน่นอน100%หลังจากทหารพม่าก่อรัฐประหารเพื่อล้มอำนาจของนางอองซาน ซูจีที่มีแนวโน้มจะผลักดันให้พม่าไปอยู่ฝั่งสหรัฐ
ส่วนเวียดนาม สิงคโปร์ มาเลย์เซีย อินโดเนเซียเลือกข้างอยู่ฝ่ายสหรัฐค่อนข่างแน่นอน จะเห็นได้ว่าพลเมืองของมาเลย์เซีย และอินโดเนเซียเชื้อสายจีนอยู่ประเทศนั้นไม่ค่อยจะเจริญ หรือถูกกีดกัน อีกประการหนึ่ง มาเลย์เซียและอินโดเนเซียเป็นประเทศมุสลิมที่อยู่ฝ่ายเครือข่ายของซาอุดิ อาราเบียที่เป็นเสาหลักของโลกมุสลิมสุหนี่ และเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอย่างเหนียวแน่น
สยามประเทศมีท่าทีอย่างไรต่อความขัดแย้งของมหาอำนาจไม่อยากจะพูด เพราะว่ากำลังเมาหมัด หน้ามืดตามัว
จีนในสมัยของสี จิ้นผิง ไม่เหมือนกับจีนในสมัยผู้นำคนก่อน เพราะว่าเวลานี้มีความเข้มแข็งทางการทหารมาก เทคโนโลยีทางทหารและดาวเทียมของจีนไม่ได้ด้อยกว่าสหรัฐ อาวุธนิวเคลียร์ก็มีพอๆกัน การจับมือเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย อิหร่านและเกาหลีเหนืออย่างเหนียวแน่นทางทหารทำให้สหรัฐและมหาอำนาจตะวันตกอื่นๆไม่น่าที่จะกล้าลงมือโจมตีจีนด้วยฮ๊อตวอร์อย่างจริงๆ นอกเสียกจากที่ว่าจะยู่จีนเพื่อให้ร่วมแบ่งอำนาจกันในวาระGlobal Resetโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการบริหารเงินสกุลโลกของไอเอ็มเอฟที่จะขึ้นมาแทนยูเอสดอลล่าร์ว่าจะแบ่งเค้กกันอย่างไร
ในชั่วโมงนี้ จีนไม่ได้รู้สึกกลัวเกรงสหรัฐแต่อย่างใด อันเห็นได้จากคำพูดของนายหวัง ยี รมว ต่างประเทศของจีนที่ออกมาบอกเมื่อเร็วๆนี้ว่า: “สหรัฐใช้กำลังในการกดดันประเทศอื่นๆอยู่เสมอ และคิดว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่น แต่ผมขอพูดให้ชัดเจนว่า ไม่เคยมีประเทศที่เหนือกว่าประเทศอื่นในโลกนี้ และมันไม่ควรที่จะมีด้วย ที่สำคัญ จีนจะไม่ยอมรับข้ออ้างประเทศใดที่เหนือกว่าประเทศอื่น เมื่อใดที่สหรัฐไม่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับประเทศอื่นในฐานะที่เท่าเทียมกัน เมื่อนั้นจีนและประชาคมระหว่างประเทศมีความรับผิดชอบร่วมกันที่จะสั่งสอนบทเรียนให้สหรัฐ"
https://www.youtube.com/watch?v=LCrRqvOMz8s
สรุปแล้วอาเซี่ยนที่คุยโม้ว่าจับมือกันเหนียวแน่น10ประเทศเพือรักษาผลประโยชน์ด้านต่างประเทศ ความมั่นคง หรือเศรษฐกิจร่วมกัน เอาเข้าจริงแล้วมีความร้าวฉานภายใน รอวันที่จะแตกหรือล่มสลาย
15/8/2021
ที่มา: https://www.facebook.com/ThanongFanclub/posts/377265420434782