ธรรมะเชิงประวัติศาสตร์ นิยามของวัฏจักร การสร้างใหม่แล้วทุบทิ้ง เป็นวงกลมไปเรื่อยๆ
ความลำบากจริงๆไม่มีหรอก
ความสุขสบายจริงๆก็ไม่มีหรอก
ก็มีเพียงแค่ความไม่เข้าใจโลกเท่านั้นเอง
ที่ทำให้ต้องลำบาก..ใจ..
วัฏ แปลว่า วงกลม วัฏสงสาร แปลว่า วงกลมที่น่าสงสาร
ผู้ที่ตกอยู่ในวัฏสงสาร แปลว่า ผู้ที่ตกอยู่ในวงกลมที่น่าสงสาร คือวงกลมของการเป็นทาส ความรู้เท่าทันแล้วรู้จักวางอุเบกขาคือนิ่งเฉย เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการออกจากวงกลมของการเป็นทาส
ความร่ำรวยที่แท้จริง ไม่ได้หมายถึง การมีเงินมาก เพราะถึงรวยอย่างไร คุณก็ไม่มีทางรวยกว่าคนที่มีอำนาจในการพิมพ์เงินได้ อย่างแน่นอน ออกจากความโง่งมงาย ออกจากความหลงว่าตนเองฉลาด กับของพวกนี้ได้แล้ว
สติปัญญาที่รู้เท่าทันอาการของโลกธรรมที่เกิดแก่ตนต่างหาก ที่จะสามารถสร้างความร่ำรวยที่แท้จริงให้คุณได้ นั้นคือ อริยทรัพย์ เป็นทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่จะทำให้คุณสุขสบายข้ามภพข้ามชาติได้ รู้อย่างนี้แล้วก็พึงตัดสินใจ ลด ละ เลิก ความทะเยอทะยานอยาก ความเสียเวลา ความเกินพอดี ในสิ่งที่ไม่ได้นำพาความร่ำรวยที่แท้จริงมาให้คุณได้แล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

16. สหรัฐ vs จีน: ใครพึ่งพาใคร? ท่ามกลางการระบาดของวิกฤตโควิด-19 สิ่งที่เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือเงิน (follow the money)
ในขณะที่สายตาของทุกคนกำลังจับตาดูตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส หรือเสียชีวิตจากรายวัน รวมท้ังพะว้าพะวังกับวัคซีนโควิด หรือแนวทางการป้องกัน และรักษาไวรัส ธนาคารกลางของสหรัฐ (เฟด) แอบพิมพ์เงินอุตหลุดให้วอลล์สตรีท และอุ้มฐานะการคลังของรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มปริมาณการใช้จ่ายที่เกินตัวมากยิ่งขึ้น ปีที่แล้วทรัมป์ก่อหน้$3ล้านล้าน ในปีนี้ไบเดนก่อหนี้อีก$3ล้านล้าน กลายเป็นเรื่องนิวนอร์มัลไป
วิกฤติคือโอกาส ถ้าอยากได้โอกาส จะรอให้วิกฤติเกิดขึ้นเอง หรือว่าจะสร้างวิกฤติเองเพื่อเปิดโอกาสเพื่อที่จะทำงานใหญ่
วิกฤติโควิดสร้างโอกาสให้เฟดได้พิมพ์เงินเหมือนกับว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้
ความจริงเฟดได้มีการทำQE หรือพิมพ์เงินเพิ่มอย่างผิดปกติมาตั้งแต่วิกฤติ2008-2009 พร้่อมกับกดดอกเบี้่ยลงสู่ระดับ0% ตามปกติดอกเบี้ยของเฟดต้องอยู่ระหว่าง4%-6% ตามวัฎจักรของเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจดี เงินเฟ้อสูงขึ้นก็ต้องขึ้นดอกเบี้ยสกัดเพื่อรักษาเสถียรภาพ เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำก็ต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเครดิต และเศรษฐกิจ
แต่เราจะไม่ได้เห็นดอกเบี้ยของเฟดกลับไปสู่ระดับปกติอีกต่อไป เพราะว่าเฟดจำเป็นต้องกดดอกเบี้ยที่0%เพื่อดูแลภาระหนี้ของรัฐบาลกลาง และตลาดหุ้น
ทุกครั้งที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัว หรือภาคการเงินกลับมามีเถียรภาพในระดับหนึ่ง เฟดจะมีข้ออ้างเสมอเพื่อที่จะไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ย
เฟดกดดอกเบี้ยระดับต่ำติดดินตลอดสมัยของโอบามา พอมาสมัยทรัมป์ขึ้นดอกเบี้ยบ้างพอหอมปากหอมคอ แต่ทำได้ไม่กี่ยกถูกทรัมป์ด่า เลยต้องกดดอกเบี้ยลงมาตามที่ต้องการอยู่แล้ว แต่พอเกิดการระบาดของโควิดในช่วงต้นปี 2020 เฟดถือโอกาสกลับมากดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ0%อีกครั้ง พร้อมกับทำคิวอีมโหฬาร หรือพิมพ์เงินเข้าระบบในอัตรา$120,000ล้านต่อเดือน
ในระยะเวลา2ปีที่ผ่านมา เฟดพิมพ์เงินเพิ่มเท่ากับ100ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้วอลล์สตรีทและตลาดหุ้นมั่งคั่ง แต่สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมอเมริกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะว่าคนรวยยิ่งรวบขึ้น ส่วนคนจนมีรายได้คงที่แถมถูกเงินเฟ้อกัดกินกำลังซื้อ
ความจริงก่อนวิกฤติโควิด เฟดอัดสภาพคล่องในตลาดซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาล (Repo market)เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้วอลล์สตรีทแบงก์ แบงก์ใช้ตลาดรีโป้เพื่อกู้ยืมคืนกับข้ามคืนระหว่างแบงก์ด้วยกันโดยใช้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นหลักทรัพย์ค่ำประกัน ตอนนี้ก็กำลังทำเพิ่มหลายแสนล้านเหรียญ
ผลของการพิมพ์เงินเพ่ิมทำให้งบดุลของเฟดปูดขึ้นมาจาก$900,000ล้านก่อนวิกฤติ2008 เป็น$8ล้านล้านกว่าในเวลานี้ เมื่อถึงสิ้นปี2021 งบดุลของเฟดจะพองโตต่อเนื่องเป็น$10ล้านล้าน
คำถามคือแล้วจีน ญี่ปุ่นหรือเจ้าหนี้ของสหรัฐจะคิดอย่างไร ในเมื่อเฟดพิมพ์เงินเพิ่มตลอดเวลาในลักษณะที่เอาไม่อยู่ เพราะว่างบดุลเฟดมีการลีเวอร์เรจไปถึง1:80 คือมีเงินทุน1ส่วนแต่ไปสร้างทรัพย์สิน80ส่วน ถ้าทรัพย์สินขาดทุนไปเพียง1 ส่วนทุนก็จะไม่เหลือ net worthจะกลายเป็นศูนย์ เท่ากับเฟดจะล้มละลายทางบัญชี
โดยสรุปแล้ววิกฤติปี 2008-2009 และวิกฤติโควิด-19เปิดโอกาสให้เฟดพิมพ์เงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้อวลล์สตรีท และใช้ประโยชน์จากดอลล่าร์กระดาษเพื่อให้สมบทบาทความกงเต๊กที่แท้จริง
เมื่อถึงเวลานั้นความน่าเชื่อถือของดอลล่าร์ในฐานะเงินสกุลหลักของโลกจะอยู่ที่ไหน?
รัสเซียและจีนพูดออกมาพร้อมกันว่า: "กูทนไม่ไหวแล้วโว๊ย" รัสเซียออกตัวก่อนด้วยการดั้มทิ้งดอลล่าร์ รัสเซียท้าทายเปโตรดอลล่าร์ด้วยการขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติด้วยเงินสกุลอื่นๆที่ไม่ใช่ดอลล่าร์ พอร์ตของกองทุนมั่งคั่งของรัสเซีย และเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียได้ทำการผ่องถ่ายดอลล่าร์ออกไป โดยถือทรัพย์สินอื่นแทน
ส่วนจีนได้ดั้มดอลล่าร์ผ่านมาลงทุนในโครงสร้างพื้่นฐานในประเทศ ซื้อบ่อน้ำมัน ตอนวัตถุดิบต่างโดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์ หรือใช้ดอลล่าร์เพื่อเทคโอเวอร์กิจการต่างๆทั่วโลก แต่ที่สำคัญ จีนจะใช้ดอลล่าร์เพื่อลงทุนในเส้นทางสายไหมผ่านAsian Infrastructure and Investment Bankที่จะทำหน้าที่เหมือนIMFกับธนาคารโลกควบคู่กันไปเลย โดยจะดั้มดอลล่าร์ก่อน แล้วให้เงินหยวนเข้าไปสวมรอยแทนทีหลังเพื่อเพิ่มบทบาทของเงินหยวนในเวทีการเงินระหว่างประเทศ
วิกฤติต้มยำกุ้งของไทยในปี1997 , วิกฤติ2008-2009ของวอลล์สตรีท และวิกฤติไวรัสโควิด2020 เปิดโอกาสให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)เข้ามาสวมบทบาทเป็นพระเอกม้าขาวเพื่อกอบกู้ระบบการเงินโลก ถ้าไม่มีวิกฤติการเงินระหว่างประเทศ IMFก็จะไม่มีงานทำ คอยแต่นั่งตบยุงอย่างเดียว
แต่พอเกิดวิกฤติการเงินขึ้น โดยไทยเป็นแพะที่ถูกจับบูชายัญไปก่อน ตามมาด้วยวิกฤติ2008-2009ที่วอลล์สตรีทแสร้งทำเป็นพลาดพลั้ง แต่ได้รับการชดเชยเกินคุ้มจากการพิมพ์เงินเข้าไปอุ้มของเฟด และวิกฤติโควิด-19ที่เปิดทางให้ท้ังเฟดปั๊มเงิน และรัฐบาลกลางใช้จ่ายเงินเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ IMFค่อยๆฉายแววในการเป็นพระเอกที่จะเข้ามากอบกู้สถานการณ์ ผ่านการสร้างบทบาทให้ในรูปบัญชีSDR (Special Drawing Rights)ที่อิงตระกร้าเงินอันประกอบด้วยดอลล่าร์ ยูโร เยน ปอนด์ และหยวนกลายเป็นเงินดิจิตัลของโลกในวาระต่อไป (เงินหยวนเพิ่งจะถูกเชิญให้เข้าไปในตระกร้าเงินไอเอ็มเอฟในปี 2016)
SDRดิจิตัลจะทำหน้าที่เป็นเงินสกุลของโลกแทนยูเอสดอลล่าร์ ดอลล่าร์จะไม่หายไปไหน แต่จะเป็นเงินสกุลท้องถิ่นเหมือนเงินบาทบ้านเรา ส่วนในธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ ทั้งแบงก์หรือบริษัทต่างๆจะใช้SDRดิจิตัลในงบดุลของตัวเอง
นี้คือหนึ่งในเป้าหมายที่สูงสุดของนิวเวิร์ลด์ออร์เดอร์ที่รอคอยกันมานานเป็นเวลาหลายร้อยปี เพื่อว่าระบบโลกจะมีเงินสกุลโลกเพียงสกุลเดียว โดยไม่มีเงินสกุลอื่นๆท้าทาย หรือเงินสกุลอื่นๆทำหน้าที่อย่างมากเป็นเพียงเชิงอรรถของเงินสกุลโลก
เมื่อสหรัฐสร้างจีนให้เข้มแข็งทางเศรษฐกิจได้ ก็สามารถทำลายจีนได้ผ่านสงครามเย็น หรือสงครามร้อนเมื่อความเข้มแข็งของจีนมีแนวโน้มว่าจะเอาไม่อยู่
ในทำนองเดียวกันเมื่อขบวนการนิวเวิร์ลออร์เดอร์สร้างดอลล่าร์ให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกได้ก็สามารถทำลายดอลล่าร์ได้เหมือนกันเมื่อดอลล่าร์หมดประโยชน์ หรือได้ทำหน้าที่ทอดสะพานเพื่อให้เงินดิจิตัลของIMFได้แจ้งเกิดอย่างสมบูรณ์แล้ว
ในวิถีของจักรวรรดิ จะคอนโทรลโลกใบนี้ ต้องควบคุมเงิน หรือทุน เมื่อมีทุนถึงจะมีอำนาจ เมื่อมีอำนาจถึงจะใช้อำนาจนั้นเพิ่มทุนหรือรักษาทุนให้มั่นคง
นิวเวิร์ลออร์เดอร์จะใช้IMFทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของธนาคารกลางทั้งหลายในโลกในการควบคุมเงิน และจะใช้ยูเอ็นเป็นรัฐบาลโลกของรัฐบาลทั้งหลายเพื่อควบคุมอำนาจ เมื่อเป็นเช่นนั้นเท่ากับว่าจะเป็นการปิดฉากยุคประชาธิปไตย และลัทธิเสรีนิยมใหม่ (Neo-liberalism)ที่มนูษย์โลกถูกหลอกให้ไขว่คว้า ท้ังๆที่มันเป็นเพียงภาพลวงตาของช่วงเปลี่ยนถ่าย
คำถามคือแล้วรัสเซียและจีนจะยอมเล่นตามเกมนี้หรือไม่ ถ้ายอมจะมีการเจรจาประนีประนอมเพื่อแบ่งอำนาจกันในระเบียบโลกใหม่ แต่ถ้าไม่ยอมจะต้องมีการข่มขู่หรือเอานุ๊กออกมาเผชิญหน้ากัน สงครามเย็นระหว่างสหรัฐฝ่ายหนึ่ง และจีนรัสเซียอีกฝ่ายหนึ่งมีพื้นฐานมาจากความยัดแย้งว่าใครจะดูแลระเบียบการเงิน และการเมืองโลกในวาระต่อไปนั่นเอง
ในบทต่อไปเราจะได้อธิบายถึงSDR ดิจิตัลกับหยวนดิจิตัลแต่แข่งกันอย่างไร เมื่อดอลล่าร์โดนดั๊มไปแล้ว
7/8/2021
ที่มา: https://www.facebook.com/ThanongFanclub/posts/372133154281342